คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 128/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตำรวจจับเด็กเที่ยวเร่ร่อนตามหน้าที่ เด็กขอร้องให้จำเลยช่วย จำเลยถามว่าเป็นอะไรมาจับเด็กเมื่อตำรวจแสดงตัวว่าเป็นตำรวจแล้ว จำเลยพูดว่า ขอได้ไหมอย่างจับเด็กนี้เลย ตำรวจจึงอธิบายให้ฟังว่าเป็นหน้าที่ จำเลยก็ยอมให้เอาตัวเด็กไป ดังนี้ การกระทำของจำเลยหาเป็นการขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ไม่
การที่จำเลยเพียงถือขวดโซดาไว้ในมือ ไม่ได้ใช้ขวดโซดาจะตีหรือหยิบมีดมาจะทำร้าย ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิด (ฐานพยายามทำร้ายร่างกายพนักงาน)

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘, ๑๔๐, ๒๙๕, ๒๙๖, ๘๐ จำเลยปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า คืนเกิดเหตุสิบตำรวจเอกสมจิตร ฮงคะนาค สิบตำรวจเอกทองลา สุวรรณประภา พลตำรวจไฉน ครุฑเกษ พลตำรวจวิชัย ศรีแก้ว ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนได้จับกุมเด็กชายประไพ บุตรซิว อายุ ๗ ปี ซึ่งเห็นว่าเป็นเด็กเร่ร่อนจรจัด เพื่อนำไปสอบสวนส่งกรมประชาสงเคราะห์ตามหน้าที่ ณ ตลาดโต้รุ่งคลองเตย เด็กชายประไพขอร้องให้จำเลยช่วย จำเลยจึงถามเจ้าพนักงานเหล่านั้นซึ่งมิได้แต่งเครื่องแบบว่าเป็นไร จ่าสิบตำรวจสมจิตรสอบว่าเป็นตำรวจ และพลตำรวจไฉนได้ควักบัตรประจำตัวให้ดูแล้ว จำเลยได้พูดว่า ขอได้ไหม อย่าจับเด็กนี้เลย สิบตำรวจเอกทองลาก็อธิบายให้ฟังว่า เป็นหน้าที่ต้องเอาตัวไปสอบสวน จำเลยก็ยอมให้เอาตัวเด็กไป ดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นการขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ กับอีกข้อหนึ่งว่า ศาลฎีกาฟังว่าจำเลยเพียงถือขวดโซดาอยู่ในมือ มิได้ใช้ขวดโซดาจะตี และฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้หยิบมีดจะมาทำร้ายเจ้าพนักงาน (พลตำรวจไฉน ครุฑเกษ) ซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่าจำเลยยังมิได้พยายามทำร้ายพนักงานตามฟ้อง พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ยกฎีกาโจทก์

Share