คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 203/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษจำคุกจำเลย 3 เดือน โดยฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยลักจากสาคูรายพิพาทซึ่งอยู่ในที่ดินของโจทก์ จำเลยฎีกาเถียงว่าโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ปลูกต้นจากสาคู จึงมิใช่เจ้าของจากสาคู ดังนี้ เป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดินสวนจาก โดยซื้อจากนางแป้นมารดาจำเลย จำเลยบังอาจลักยอดจากและตัดต้นจากคิดเป็นเงิน ๑,๐๐๐ บาทไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า นางแป้นมารดาจำเลยรับมรดกนายแสงบิดาจำเลยทำสัญญาโอนขายที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์ย่อมได้สิทธิในที่ดินพร้อมทั้งผลอาสินบนที่ดินนั้น การที่จำเลยเข้าไปตัดฟันต้นสาคู (จาก) ใบสาคูในที่ดิน มิใช่เพราะความเข้าใจผิดหรือไม่ทราบว่าที่ดินบริเวณปลูกต้นสาคูเป็นของโจทก์ จำเลยเจตนาลักทรัพย์ จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๔ ให้จำคุกจำเลย ๓ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาคัดค้านว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินปลูกต้นจากสาคู
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่าโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินที่ปลูกต้นจากสาคูรายพิพาท จึงไม่ใช่เจ้าของจากสาคูที่ฟ้องนั้น เป็นการเถียงข้อเท็จจริงซึ่งศาลล่างรับฟังมาแล้วว่าจากสาคูรายพิพาทอยู่ในที่ดินของโจทก์ เพราะนางแป้นผู้รับมรดกนายแสงบิดาจำเลยขายให้โจทก์ คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลยเพียง ๓ เดือน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
พิพากษายืน

Share