คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1151/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เครื่องหมายการค้าของโจทก์ 2 ตรา เป็นรูปเด็กจูงควายและนกขี่ควายของจำเลยเป็นรูปเด็กจูงและฉุดควาย กับควายขี่นก เห็นได้ว่ามีสารสำคัญอย่างเดียวกันคือควายกับเด็ก และควายกับนก แม้จะมีการผิดแปลกแตกต่างกันไปบ้าง แต่สารสำคัญของเครื่องหมายทั้งสองก็ยังคงเป็นอย่างเดียว เช่นนี้เรียกได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนหรือคล้ายคลึงกับของโจทก์ ทั้งเมื่อพิจารณาถึงการขานชื่อก็เป็นการเรียกขานชื่ออย่างเดียวกัน ซึ่งเมื่อนำมาใช้กับสินค้าประเภทเดียวกันแล้ว อาจทำให้ผู้ซื้อผิดหลงได้และเมื่อปรากฏว่าเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่รับจดทะเบียนให้มาก่อนครั้งแรก แต่เมื่อจำเลยได้ดัดแปลงจนได้รับจดให้ภายหลัง ย่อมส่อเจตนาของจำเลยว่าประสงค์จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าและของโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าตรา “รูปเด็กจูงควาย” และ “รูปนกขี่ควาย” ซึ่งได้จดทะเบียนไว้แล้วสำหรับใช้กับสินค้าผ้าฝ้าย จำเลยบังอาจเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์โดยนำเครื่องหมายรูปเด็กจูงควาย และฉุดควาย กับรูปควายขี่นกมาใช้กับสินค้าผ้าดำของจำเลยออกจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๔
จำเลยให้การปฏิเสธและต่อสู้ว่าได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของตนไว้แล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ จำเลยทั้ง ๒ ตรามีลักษณะร่วมกันที่เห็นเด่นชัดคือควายกับคน และนกกับควาย อันเป็นสารสำคัญของรูป และเมื่อคำนึงถึงประชาชนผู้ซื้อซึ่งส่วนมากเป็นชาวชนบทด้วยแล้ว เห็นว่าอาจทำให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๔ ปรับ ๑,๐๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำว่าควายนกและเด็กกับควายไม่เป็นคำที่บอกถึงลักษณะหรือคุณภาพของสินค้าโดยเฉพาะ ผู้ใดอาจขอจดทะเบียนได้ แต่ต้องไม่มีลักษณะคล้ายกันอันอาจทำให้ผู้ซื้อหลงผิดได้ เมื่อพิเคราะห์จากเครื่องหมายทั้ง ๒ ตราของโจทก์จำเลยแล้ว เห็นว่าไม่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันอันอาจทำให้ประชาชนผิดหลงได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เครื่องหมายการค้าทั้ง ๒ ตราของโจทก์จำเลยมีสารสำคัญเป็นอย่างเดียวกันคือควายกับเด็กและควายกับนก แม้จำเลยจะดัดแปลงให้ต่างกับของโจทก์บ้าง โดยเพิ่มเด็กเข้ามาอีกคนหนึ่งให้ดึงหางควาย และสับนกขี่ควายของโจทก์ให้เป็นควายขี่นก แต่สารสำคัญก็คงเป็นควายกับเด็กและควายกับนกอยู่นั่นเอง เพราะข้อแตกต่าง เช่นนี้จะเห็นได้ชัดแจ้งก็ต่อเมื่อนำเอามาเทียบเคียงกันโดยใกล้ชิดเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นเมื่อพิจารณาถึงการขานชื่อเครื่องหมาย ก็เป็นการเรียกขานชื่ออย่างเดียวกัน คือเด็กกับควายและควายกับนก เมื่อจำเลยนำมาใช้กับสินค้าประเภทเดียวกับของโจทก์ จึงมีเหตุที่ผู้ซื้ออาจหลงผิดได้ ทั้งโจทก์ได้จดทะเบียนเครื่องหมายไว้ก่อน ส่วนจำเลยมาจดทีหลัง ซึ่งก็ได้เคยถูกเจ้าพนักงานยับยั้งมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้ดัดแปลงจนสามารถจดทะเบียนเป็นของตนได้ อันส่อเจตนาว่าประสงค์จะเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ พิพากษากลับให้บังคับตามศาลชั้นต้น

Share