แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งขายที่ดินโฉนดเลขที่ 972 ของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นประกาศขายทอดตลาดใหม่โดยให้ขายที่ดินโฉนดดังกล่าวรวมกับที่ดินโฉนดเลขที่ 2285 ถึง 2293ผู้ซื้อทรัพย์ฎีกา หากศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยยืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นจะเป็นการเสียหายแก่ผู้ซื้อทรัพย์เป็นอย่างมากขอได้โปรดมีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา
หมายเหตุ โจทก์และจำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 229,230)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
คดีสืบเนื่องมาจากจำเลยไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นเงิน 10,610,657.73 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 19 ต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระหนี้ไถ่จำนองเสร็จ โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินของจำเลยรวม 20 แปลง เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์เมื่อถึงวันขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายที่ดินโฉนดเลขที่ 972,1555,1556 และ1557 ตำบลท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ให้แก่บริษัทเรือขุดแร่บุญสูง จำกัด นายไมตรีเอี่ยมวรกุล ผู้ให้ราคาสูงสุดต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวและให้ดำเนินการขายใหม่ จำเลยขอให้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้ขายทอดตลาด และขอให้ระงับการโอนทรัพย์แก่ผู้ซื้อ กับประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ทั้งหมดใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งว่า การขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นการขายโดยชอบแล้วไม่มีเหตุจะสั่งเพิกถอน ยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิกถอนคำสั่งขายที่ดินโฉนดเลขที่ 972 ของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นประกาศขายใหม่ โดยให้ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 972 รวมกับที่ดินโฉนดเลขที่ 2285 ถึง 2293นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลชั้นต้นบริษัทเรือขุดแร่บุญสูง จำกัด ผู้ซื้อทรัพย์ฎีกา และยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 188,225)
คำสั่ง
คำร้องของผู้ร้องพอแปลได้ว่า ผู้ร้องขอคุ้มครองประโยชน์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 พิเคราะห์แล้วเห็นสมควรให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยในระหว่างฎีกา