แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่ารับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 เฉพาะข้อ 2.1 และ 2.2 ส่วนอุทธรณ์ข้อ 2.3,2.4 และ 2.5 เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 จึงไม่รับอุทธรณ์ในส่วนนี้จำเลยที่ 1 เห็นว่าการที่จำเลยที่ 1 ได้ยกข้อกล่าวอ้างขึ้นอุทธรณ์ในข้อ 2.3 ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ไม่มีความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นจากการกระทำของจำเลยที่ 1 นั้น เป็นการยกข้อกฎหมายขึ้นว่ากล่าว เป็นการแปลข้อความซึ่งศาลชั้นต้นมิได้ยกขึ้นอ้างเป็นคุณแก่จำเลยที่ 1 แต่อย่างใด อุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ในข้อนี้จึงมิใช่เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงสำหรับอุทธรณ์ในข้อ 2.4 ก็เช่นเดียวกัน เป็นการอุทธรณ์ว่าศาลแรงงานกลางวินิจฉัยนอกประเด็นที่คู่ความรับกันซึ่งเป็นข้อกฎหมาย ส่วนอุทธรณ์เรื่องค่าเสียหายตามข้อ 2.5 นั้นก็เป็นการอุทธรณ์ว่าศาลแปลและใช้กฎหมายที่ไม่ถูกต้องจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายทั้งสิ้นโปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ในข้อ 2.3ข้อ 2.4 และข้อ 2.5 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 94)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้โจทก์เป็นเงิน 223,850 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2ที่ 3 และที่ 4 ฯลฯ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์บางข้อดังกล่าว (อันดับ 82)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 86)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1ซึ่งเป็นลูกจ้างโจทก์ไม่ระวังรักษาผลประโยชน์ของโจทก์ในการปฏิบัติงานเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย คิดเป็นเงิน223,850 บาท ที่จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ว่า จำเลยที่ 1 ซึ่งร่วมเป็นคณะกรรมการตรวจรับการก่อสร้างได้ตรวจรับงานก่อสร้างไปตามแบบแปลนมิได้ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องแต่อย่างใด และค่าเสียหายที่ศาลแรงงานกลางกำหนดสูงเกินความเป็นจริงนั้นเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ศาลแรงงานกลางไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง