แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์แล้วคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโดยวินิจฉัยว่ายกประโยชน์แห่งความสงสัยให้เป็นผลดีแก่จำเลย โจทก์ร่วมฎีกาโต้เถียงปัญหาดังกล่าวซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 จึงไม่รับฎีกาโจทก์ร่วมโจทก์ร่วมเห็นว่า ฎีกาของโจทก์ร่วมเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีคลาดเคลื่อนจากพยานหลักฐานในสำนวนที่โจทก์จำเลยนำสืบ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ร่วมไว้พิจารณาคดีต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วโดยวิธีปิดหมาย(อันดับ 80 แผ่นที่ 3)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฯลฯ
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม
ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ร่วมฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 71)
โจทก์ร่วมจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 78)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว โจทก์ร่วมฎีกาว่า ข้อเท็จจริงในคดีนี้ไม่มีเหตุอันควรสงสัยว่าโจทก์ร่วมให้จำเลยกู้ยืมเงินโดยรับเช็คของจำเลยไว้เพื่อชำระหนี้เงินกู้จริงหรือไม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ร่วมนั้น ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง