คำสั่งคำร้องที่ 902/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นทั้งลงโทษจำคุกเพียง 5 เดือนเท่านั้น จำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงอีก ส่วนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการรับรองเอกสารต่าง ๆ นั้น จำเลยเพิ่งกระทำขึ้นภายหลังจากที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินคดีไปแล้วจึงไม่อาจนำเสนอศาลฎีกาได้จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าสิทธิในการดำเนินคดีอาญาของโจทก์ระงับลงแล้วหรือไม่ การที่ศาลมีคำสั่งไม่รับฎีกานั้นยังคลาดเคลื่อนอยู่
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 81)โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,83ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 10 เดือนจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 5 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 77)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 79)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 ฎีกาจำเลยอ้างข้อกฎหมายว่าสิทธิในการดำเนินคดีอาญาของโจทก์ระงับไปเฉพาะผู้เสียหายบางรายหรือไม่ เพื่อนำไปสู่ปัญหาข้อเท็จจริงที่ว่า สมควรจะรอการลงโทษให้จำเลยหรือไม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ให้ยกคำร้อง

Share