แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจากโจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงเกี่ยวกับหนี้รายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยจำเลยทั้งสองยอมใช้เงินให้โจทก์ 3,000,000 บาท ซึ่งโจทก์ได้รับเงินจากจำเลยทั้งสองเรียบร้อยแล้ว และจำเลยไม่ติดใจที่จะฎีกาคดีนี้ต่อไป จึงขอถอนฎีกาโปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์แถลงท้ายคำร้องว่า โจทก์ทราบคำร้องถอนฎีกาของจำเลยทั้งสองแล้ว ไม่คัดค้าน ฯลฯ (อันดับ 122)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระหนี้จำนวนเงิน1,012,108.52 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในต้นเงินจำนวน 915,935.32บาท อัตรา ร้อยละสิบแปดต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2525เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ ถ้าจำเลยที่ 1ไม่ชำระหรือชำระหนี้ไม่ครบถ้วนก็ให้บังคับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 2119 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี (พระโขนง) กรุงเทพมหานครของจำเลยที่ 2 ขายทอดตลาดเอาเงินสุทธิชำระหนี้โจทก์ หากขายทอดตลาดแล้วยังได้เงินสุทธิไม่พอชำระหนี้ก็ให้บังคับเอากับทรัพย์สินอื่นของจำเลยที่ 2 ขายทอดตลาดชำระหนี้โจทก์จนครบ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน3,234,957.16 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละสิบแปดต่อปีต้นเงิน 2,600,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วนให้บังคับจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 2119 ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี (พระโขนง)กรุงเทพมหานคร ของจำเลยที่ 2 ออกขายทอดตลาดเอาเงินสุทธิชำระหนี้แก่โจทก์หากยังไม่พอชำระหนี้ก็ให้บังคับเอากับทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองจนครบ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา (อันดับ 98)
ศาลฎีกาทำคำพิพากษาเสร็จ และส่งไปยังศาลชั้นต้นเพื่ออ่านให้คู่ความฟังแล้ว (อันดับ 117)
ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาตามที่เลื่อนมาในวันที่5 ตุลาคม 2530(อันดับ 121)
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 122)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว อนุญาตให้จำเลยทั้งสองถอนฎีกาได้ให้คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาแก่จำเลยทั้งสองหนึ่งในสี่ ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความของศาลฎีกา