แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ จำเลยเพิ่งพบว่าบันทึกประจำวันของสถานีตำรวจนครบาลทุ่งมหาเมฆ ลงวันที่ 3 มกราคม 2527 ซึ่งมีโจทก์ร่วมเป็นผู้แจ้งความไว้มีข้อความระบุชื่อของคนร้ายที่ร่วมทำร้ายโจทก์ร่วมไว้อย่างชัดเจน โดยไม่มีชื่อจำเลยเป็นผู้ร่วมทำร้ายโจทก์ร่วมอันเป็นพยานหลักฐานที่สำคัญ หากได้นำพยานดังกล่าวเข้าร่วมการวินิจฉัยคดีของศาลฎีกาก็จะทำให้ศาลฎีกาวินิจฉัยตัดสินไปด้วยความยุติธรรมและถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเพื่อความยุติธรรมโปรดอนุญาตให้จำเลยระบุพยานเพิ่มเติมและมีคำสั่งเรียกพยานเอกสารดังกล่าว ปรากฏตามสำเนาภาพถ่ายบันทึกประจำวันแนบท้ายคำร้องมาประกอบการพิจารณาของศาลฎีกาด้วย แต่เนื่องจากตามภาพถ่ายสำเนาดังกล่าวด้วยความพลั้งเผลอของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับ พ.ศ. ที่เกิดเหตุผิดพลาดไป คือจากวันที่ 3 มกราคม 2527เป็นวันที่ 3 มกราคม 2526 แต่จำเลยขอยืนยันว่าบันทึกประจำวันนั้นคือบันทึกฉบับลงวันที่ 3 มกราคม 2527 จำเลยได้พิมพ์บัญชีระบุพยานเพิ่มเติมพร้อมทั้งหมายเรียกพยานเอกสารดังกล่าวมาพร้อมคำร้องแล้วโปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์และโจทก์ร่วมต่างได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 48)
ระหว่างพิจารณา ผู้เสียหายขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม
ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297,83 จำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี
จำเลยฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 49,48)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยทราบว่าพยานหลักฐานที่ขออ้างเพิ่มเติมมีอยู่แล้วก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาดังปรากฏตามคำร้องของจำเลยลงวันที่ 18 มีนาคม 2528 จึงไม่มีเหตุอันสมควรอนุญาตให้จำเลยยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติม ให้ยกคำร้อง