แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด10 ปี จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์ แต่ขังจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไว้ในระหว่างฎีกา
เนื่องจากจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพมาโดยตลอด จึงไม่ติดใจในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นแต่อย่างใด จำเลยที่ 3 จึงมีความประสงค์ขอแยกคดีของจำเลยที่ 3 ออกจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 เพื่อให้คดีเสร็จเด็ดขาด พร้อมทั้งออกหมายแดงแจ้งโทษให้แก่จำเลยที่ 3 ด้วยโปรดอนุญาต
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,362,364,365 และมาตรา 83มาตรา 90 จำเลยที่ 3 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490มาตรา 4,6,8 ทวิ,55,72 ทวิ และมาตรา 78 ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฯลฯ จำเลยทั้งสามมีความผิดฐานร่วมกันใช้ปืนยิงนายแพงถึงแก่ความตาย และข้อหาบุกรุกเข้าไปในเคหสถานโดยมีอาวุธติดตัวในเวลากลางคืนเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุดจำคุกจำเลยคนละ 16 ปี ลงโทษจำเลยที่ 3 ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตไม่ได้ไว้ในครอบครองให้จำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ 3 ปี และข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่อนุญาตจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ 1 ปี รวมลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3 ไว้ 20 ปีจำเลยที่ 3 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 10 ปี ฯลฯ ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 2 เฉพาะข้อหาเกี่ยวกับมีและพกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ เฉพาะจำเลยที่ 1และที่ 2 แต่ให้ขังจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไว้ระหว่างฎีกานอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา (อันดับ 92)
จำเลยที่ 3 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 97)
จำเลยที่ 3 เคยยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดมาแล้วครั้งหนึ่ง และศาลชั้นต้นได้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้แก่จำเลยที่ 3 แล้ว (อันดับ 90,91)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นได้ออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดให้จำเลยที่ 3 ตามคำร้องแล้ว ไม่มีเหตุที่จะออกซ้ำอีก ยกคำร้อง