แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ไม่รับฎีกาจำเลยที่ 1 เห็นว่า การที่จำเลยที่ 1 ครอบครองปืนซึ่งทางราชการออกใบอนุญาตให้และยิงปืนดังกล่าวเป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7,8 ทวิ,72,72 ทวิ ฯ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91,83,376 ฯ ลงโทษจำเลยฐานครอบครองปืนผิดมือจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 4,000 บาท ฐานพกพาปืนไม่มีใบอนุญาตจำคุกจำเลยคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท ฐานยิงปืนในที่ชุมนุมชน ปรับคนละ 500 บาท รวมจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี ปรับคนละ6,500 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยคนละ 6 เดือน ปรับคนละ 3,250 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ฯลฯ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษให้จำเลยและไม่ปรับนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 34)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 35)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า การกระทำของจำเลยที่ 1เป็นภัยต่อสังคมหรือไม่ เพื่อให้ศาลฎีการอการลงโทษให้ เป็นฎีกาที่โต้แย้งดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 นั้น ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง