คำสั่งคำร้องที่ 2216/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าแม้ฎีกาข้อ 2.1 จะเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย แต่เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบด้วยมาตรา 225 จึงไม่รับ ส่วนฎีกาข้ออื่นเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 จึงไม่รับ จำเลยที่ 2ถึงที่ 5 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายทุกข้อกล่าวคือในข้อ 2.1 โจทก์ไม่สามารถนำสืบให้เห็นว่าจำเลยได้ทราบประกาศของทางราชการที่กำหนดให้ไม้มะค่าโมงเป็นไม้หวงห้ามและให้กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตลอดเขตท้องที่จังหวัดทุกจังหวัดซึ่งปิดไว้ณ ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการกำนันและในที่สาธารณะท้องที่ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งประกาศดังกล่าวก็มิใช่กฎหมาย จึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนโดยตรง สำหรับฎีกาข้อ 2.2 ปัญหาว่า จำเลยมีเจตนากระทำความผิดหรือไม่ จึงไม่ต้องห้ามฎีกา โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 7,47,48,73,74,74 จัตวา,75 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำเลยที่ 1อายุ 16 ปี ลดมาตราส่วนโทษลงกึ่งหนึ่งให้จำคุก 6 เดือนส่วนจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 จำคุกคนละ 1 ปี จำเลยทั้งห้าให้การรับสารภาพชั้นจับกุมสอบสวน เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด4 เดือน และจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 มีกำหนดคนละ 8 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำเลยที่ 1ไว้มีกำหนด 2 ปี นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 77)
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 78)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ฎีกาของจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ข้อ 2.1ที่ฎีกาว่าตามท้องสำนวนโจทก์ไม่มีพยานปากใดเบิกความถึงการปิดประกาศคำสั่งกำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ของทางราชการโจทก์จึงสืบไม่สมฟ้องนั้น เห็นว่า โจทก์ได้นำสืบทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารให้ปรากฏแล้วในท้องสำนวน และศาลล่างทั้งสองศาลก็ฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งห้าทราบแล้วว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฎีกาข้อนี้จึงเป็นฎีกาโต้เถียงในข้อเท็จจริง ส่วนฎีกาข้อ 2.2 ก็เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงเช่นกันจึงเป็นฎีกาต้องห้ามที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับนั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง

Share