แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกาศาลชั้นต้นสั่งว่ากรณีไม่มีพฤติการณ์พิเศษ ไม่อนุญาต จึงให้ยกคำร้องจำเลยเห็นว่า จำเลยทราบคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่29 สิงหาคม 2532 จำเลยซึ่งต้องขังอยู่และทนายก็ไม่เคยติดต่อให้คำปรึกษาช่วยเหลือจำเลยซึ่งมีความประสงค์จะยื่นฎีกาจึงได้ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 31 สิงหาคม 2532 ขอคัดสำเนาถูกต้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คำให้การผู้เสียหายในชั้นสอบสวน บันทึกการจับกุมและคำเบิกความพยานโจทก์พยานจำเลยต่อศาลชั้นต้น และได้รับเอกสารดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2532 แต่ไม่ได้รับสำเนาคำให้การผู้เสียหายในชั้นสอบสวนอันเป็นเอกสารสำคัญที่จะทำให้ฎีกาของจำเลยไม่สมบูรณ์ จำเลยก็ได้ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 12กันยายน 2532 ขอต่อศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องดังนั้นระยะเวลาที่เหลืออยู่จำเลยจึงไม่สามารถเรียบเรียงและยื่นฎีกาได้ทัน อันถือว่าจำเลยมีพฤติการณ์พิเศษและเป็นเหตุสุดวิสัยขอศาลฎีกาได้โปรดอนุญาตให้จำเลยยื่นฎีกาต่อไปด้วย
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 36 แผ่นที่ 2)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339 วรรคสอง,371 เรียงกระทงลงโทษ ฐานชิงทรัพย์จำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะฯ ปรับ100 บาท รวมสองกระทงจำคุก 10 ปี และปรับ 100 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง (อันดับ 34 แผ่นที่ 2)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 36 แผ่นที่ 2)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว กรณีไม่มีพฤติการณ์พิเศษ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง