คำสั่งคำร้องที่ 2177/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า เป็นคดีฟ้องขับไล่บุคคลออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละ5,000 บาท ฎีกาของจำเลยในประเด็นข้อ 2 และข้อสุดท้ายเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงให้รับฎีกาของจำเลยเฉพาะในประเด็นข้อแรกที่ว่าฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ส่วนประเด็นข้ออื่น ๆ นอกจากนั้นไม่รับจำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยในประเด็นข้ออื่น ๆ ก็เป็นปัญหาข้อกฎหมายกล่าวคือในประเด็นข้อ 2 ฎีกาว่า การบอกเลิกสัญญายังไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามบทบัญญัติของมาตรา 130 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส่วนประเด็นข้อสุดท้ายได้ฎีกาว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยพยานหลักฐานในท้องสำนวนผิดพลาดน่าจะไม่ชอบด้วยบทกฎหมายมาตรา 95 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยในประเด็นข้อ 2 และข้อสุดท้ายไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 102แผ่นที่ 7)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากตึกแถว เลขที่ 15/6 ซอยวัดปรก ถนนเจริญกรุงแขวงทุ่งวัดดอนเขตยานนาวากรุงเทพมหานครและส่งคืนตึกพิพาทดังกล่าวให้แก่โจทก์ในสภาพที่เรียบร้อย และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากตึกพิพาท
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาบางข้อดังกล่าว(อันดับ 96)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 99)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้เป็นคดีฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกพิพาทซึ่งขณะยื่นฟ้องมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละ 5,000 บาท ตามคำให้การของจำเลยไม่ได้โต้เถียงเป็นข้อพิพาทในเรื่องกรรมสิทธิ์ และมิได้ยกขึ้นโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายในสัญญา ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาไปให้จำเลยระบุที่อยู่ที่ตึกพิพาทเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า เมื่อศาลล่างทั้งสองฟังว่าโจทก์ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาให้จำเลยชอบแล้ว จึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและที่จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นวินิจฉัยพยานหลักฐานในสำนวนผิดพลาดศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ไม่รับวินิจฉัยให้น่าจะไม่ถูกต้องนั้น ก็ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยดังกล่าวชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share