แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสามฎีกาและเคยยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกามาครั้งหนึ่งแล้ว ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาต แต่จำเลยทั้งสามไม่นำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันต่อศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด เนื่องจากจำเลยทั้งสามไม่ได้รับหมายนัดใด ๆ จากศาล และหมายของจำเลยทั้งสามก็ไม่ได้แจ้งให้จำเลยทั้งสามทราบ จำเลยทั้งสามทราบเมื่อได้รับหมายบังคับคดีแล้ว คดีของจำเลยมีทางชนะ โปรดมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้งสามนำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันและให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระเงินจำนวน 600,000 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินจำนวนนี้นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จให้แก่โจทก์ทั้งสองศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องแย้งจำเลยทั้งสาม ให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้เงิน 1,000,000 บาท ให้โจทก์ทั้งสองพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากจำนวนเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสามฎีกา (อันดับ 219,217)
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 236)
ศาลฎีกาอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกามาครั้งหนึ่งแล้วแต่จำเลยทั้งสามไม่นำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกันต่อศาลภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด(อันดับ 230,233)
จำเลยทั้งสามได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์โดยนำหลักทรัพย์มาวางเป็นประกัน และได้ทำหนังสือสัญญาค้ำประกันไว้ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 191,201)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ถ้าจำเลยที่ 2 หาประกันสำหรับจำนวนเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนถึงวันรับทราบคำสั่ง มาให้จนเป็นที่พอใจและภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับแก่จำเลยที่ 2 ไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง