แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 ขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกา โดยผู้ขอประกันขอใช้หลักทรัพย์ที่ได้ยื่นไว้เดิมเป็นหลักประกัน
หมายเหตุ ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 1 ที่ 3 ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นสั่งแยกฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7),83,371,91 ให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานพกพาอาวุธไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ปรับ 100 บาท และฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 วรรคสองให้จำคุก 1 ปี รวมเป็นจำคุก 1 ปี และปรับ 100 บาท จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 50 บาท
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องดังกล่าว โดยมีคำร้องประกอบว่าจะยื่นฎีกาต่อไป (สำนวนธุรการ อันดับ 26,25)
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 2 ชั่วคราวทั้งในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โดยในชั้นอุทธรณ์ตีราคาประกัน 60,000 บาท (สำนวนธุรการ อันดับ 2 แผ่นที่ 4,อันดับ 6)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง สมควรจะได้พิจารณาฎีกาของจำเลยที่ 1 ประกอบด้วย แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ยื่นฎีกาแล้วหรืออย่างไรจึงไม่มีเหตุที่จะพิจารณาให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างนี้ ให้ยกคำร้อง