แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า เนื่องจาก ศาลฎีกามีคำสั่งอนุญาตให้ทุเลาการ บังคับจำเลยในเรื่องขับไล่ไว้ในระหว่างฎีกา ส่วนที่ให้ใช้ ค่าเสียหายให้จำเลยหาประกันสำหรับจำนวนค่าเสียหายที่จะต้อง ชำระแก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กับค่าเสียหายอีกปีละ 40,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นเวลาหกปีมาวางจนเป็นที่พอใจ และภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด เมื่อถึงกำหนดจำเลยไม่ได้ หาหลักประกันมาวางศาล ศาลจึงยกคำร้องในส่วนนี้ โจทก์ได้นำ เจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาด เอาเงินมาชำระค่าเสียหาย ปรากฏว่ายึดได้เพียงบ้านเพียงหลังเดียวเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประกาศขายถึง 2 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถขายได้ จึงต้องประกาศขายใหม่ ปรากฏตามรายงานของเจ้าพนักงาน บังคับคดีในการประกาศขายใหม่เชื่อว่าไม่มีใครที่จะประมูลราคา สูงกว่า 8,300 บาท นอกจากนี้แล้วจำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใด ที่จะยึดมาขายทอดตลาดได้ แต่จำเลยถือโอกาสตามคำสั่งศาลฎีกา ให้ทุเลาการบังคับในการขับไล่ จึงไม่วางเงินประกัน และไม่ยอมออกจากที่พิพาทจนกว่าศาลฎีกาจะพิพากษาซึ่งอาจเป็นเวลา อีกนาน ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอย่างมากและโจทก์ยังไม่ได้ เข้าครอบครองทรัพย์หรือเก็บผลประโยชน์ในทรัพย์พิพาท เนื่องจาก จำเลยได้ครอบครองตลอดมา และไม่เคยชำระค่าเช่าให้แก่โจทก์ และขณะนี้จำเลยได้นำที่พิพาทไปให้ผู้อื่นเช่า เก็บค่าเช่าไปเป็น ประโยชน์ของตนเอง และพยายามประวิงคดีตลอดมา คดีของจำเลย ไม่มีทางที่จะชนะโจทก์ได้ เพราะในคดีแพ่งศาลอุทธรณ์ได้พิพากษา คดีถึงที่สุดแล้วว่า จำเลยได้ทำหนังสือเลิกการเช่าที่นาพิพาท ไว้ต่อหน้านายอำเภอ หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายไว้และได้รับ เงินค่ารื้อถอนบ้านเรือนไปจากเจ้าของที่ดินเดิมแล้ว จำเลย จึงไม่มีสิทธิที่จะเช่าต่อไป ขอศาลได้โปรดมีคำสั่งยกเลิกคำสั่ง ที่ให้ทุเลาการบังคับในเรื่องขับไล่เสียและบังคับคดีต่อไป
หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าจำเลยได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ขับไล่จำเลยพร้อมทั้งบริวารและให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างขนย้ายออกไปจากที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ 23414 ตำบลคลองสี่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 80,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย อัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้อง จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ปีละ 40,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง พร้อมกับยื่นคำร้องขอทุเลา การบังคับ (อันดับ 109,110)
ศาลฎีกามีคำสั่งว่า พิเคราะห์แล้ว ที่ให้ขับไล่นั้นอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา ส่วนที่ให้ใช้ค่าเสียหาย ถ้าจำเลยหาประกันสำหรับจำนวนค่าเสียหายที่ต้องชำระ แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กับค่าเสียหายอีกปีละสี่หมื่น บาท นับแต่วันฟ้องเป็นเวลาหกปีมาวางจนเป็นที่ พอใจและภายในเวลา ที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็อนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างฎีกา มิฉะนั้นให้ยกคำร้องในส่วนนี้
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
โจทก์ยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 131)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ