คำสั่งคำร้องที่ 2217/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยฎีกาขอให้ รอการลงโทษจำคุกซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่แก้ไขโทษจำคุก จำเลยจากเดิม 2 ปี เป็นจำคุกจำเลย 6 เดือน ชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้เพิ่มบทและแก้โทษเป็นการแก้ไขมาก คดีของจำเลยจึงไม่ต้องห้ามฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279 วรรคสอง ที่แก้ไขแล้ว ลงโทษจำคุก 2 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 59)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 60)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเฉพาะโทษที่ลงแก่จำเลย ไม่ได้แก้บทมาตราด้วยเป็นการแก้ไขเล็กน้อยและให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 218 วรรคแรก จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ เป็นฎีกาดุลพินิจในการลงโทษของศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น ศาลชั้นต้น มีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share