คำสั่งคำร้องที่ 1062/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทก์ ฎีกาของโจทก์จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ในประเด็นที่ว่า พนักงานรับฟ้องของศาลเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายหรือไม่ และโจทก์เป็นผู้เสียหาย มีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ได้ส่งสำเนาคำร้องให้จำเลยทั้งสองแล้ว(อันดับ 34)
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137,83,90
ศาลชั้นต้นสั่งในคำฟ้องว่า พนักงานรับฟ้องและผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รับแจ้งความดังโจทก์ฟ้อง และโจทก์บรรยายฟ้องว่า ความจริงแล้วนางแจ้ ทำพินัยกรรมแต่โจทก์เป็นเพียงทายาทโดยธรรม โจทก์จึงไม่มีสิทธิรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม ดังนั้นแม้จะได้ความตามโจทก์ฟ้องโจทก์ก็ไม่ได้รับความเสียหาย โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 29)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 31)

คำสั่ง
คดีนี้ ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ไม่ว่าจะเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือปัญหาข้อกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ที่แก้ไขใหม่ ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์จึงชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง

Share