แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ยื่นฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาโจทก์ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 จึงไม่รับฎีกา ของโจทก์
โจทก์เห็นว่า ฎีกาของโจทก์ข้อ 3.1 และข้อ 3.2 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และคดีนี้ โจทก์ได้ยื่นฟ้องเป็นคดีเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ จึงไม่ต้องห้าม ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ ทนายจำเลยทั้งสี่ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 191 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้พิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของและมีสิทธิครอบครองในที่ดิน น.ส.3 ทะเบียนเล่ม 4หน้า 102 สารบบเล่มเลขที่ 29-13 ตั้งอยู่ที่ตำบลเกษมอำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ห้ามจำเลยทั้งสี่เข้าเกี่ยวข้องให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และให้จำเลยที่ 3 ที่ 4 ดำเนินการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้แก่โจทก์ไปโดยให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันออกค่าใช้จ่ายแทนโจทก์ ให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 3,000 บาทต่อปีนับแต่ วันกระทำละเมิดจนกว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวในที่พิพาท
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 187)
ทนายโจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ โดยมิได้วางเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนคู่ความอีกฝ่าย (อันดับ 189)
คำสั่ง
โจทก์ไม่นำค่าฤชาธรรมเนียมมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อน จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาของโจทก์