แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยที่ว่าการส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะจำเลยไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ตามฟ้องโจทก์นั้นเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลย ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสืบเนื่องมาจาก จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 20,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันกู้ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 28)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 31)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามฎีกาของจำเลยอ้างว่า โจทก์ส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้อง ณ สถานที่ซึ่งไม่ใช่ภูมิลำเนาของจำเลย เป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบว่าถูกฟ้องไม่มีโอกาสต่อสู้คดีมาตั้งแต่ต้น หากได้ความตามคำร้องของ จำเลย การส่งหมายเรียก และสำเนาคำฟ้อง การส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ตลอดจนคำบังคับ ย่อมไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ให้รับฎีกาของจำเลย ไว้ดำเนินการต่อไป จำเลยชำระค่าขึ้นศาลในชั้นนี้มา 200 บาท ให้ศาลชั้นต้นหักไว้เป็นค่าคำร้องเสีย 40 บาท นอกนั้นคืนให้แก่จำเลย