คำสั่งคำร้องที่ 1189/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า พิเคราะห์ ฎีกาจำเลยที่ 3 แล้ว เป็นการโต้แย้งดุลยพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 3
จำเลยที่ 3 เห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 3 ในประเด็นที่ว่าการกระทำของจำเลยที่ 3 ตามคำให้การของผู้เสียหายควรจะเป็น ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ฐานข่มขืนกระทำชำเรา หรือตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 278 ฐานกระทำอนาจาร ประเด็น ดังกล่าวนี้ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของ จำเลยที่ 3 ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 125)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคหนึ่ง,278, 318 วรรคสาม,83 จำเลยที่ 1 และที่ 3 อายุไม่เกิน 17 ปี ลดมาตราส่วนโทษ ให้กึ่งหนึ่ง ความผิดตามมาตรา 318 วรรคสาม จำคุกคนละ 2 ปี ความผิดตามมาตรา 276 วรรคหนึ่ง,278 เป็นกรรมเดียวผิด กฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 276 วรรคหนึ่ง อันเป็น บทหนักตามมาตรา 90 จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 5 ปี ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับ จำเลยที่ 3 ในข้อหาฐานพรากผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 318 วรรคสาม นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว(อันดับ 122)
จำเลยที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 123)

คำสั่ง
พิเคราะห์ฎีกาของจำเลยที่ 3 โดยตลอดแล้ว สรุปความ ตามฎีกาจำเลยที่ 3 ได้ว่า ตามพฤติการณ์การกระทำ ของจำเลยที่ 3 ที่ผู้เสียหายเบิกความจำเลยที่ 3 ไม่มีเจตนาข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหาย เพราะเมื่อจำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย เสร็จแล้ว จำเลยที่ 3 เพียงเข้าไปกอดจูบผู้เสียหายโดย จำเลยที่ 3 ไม่ได้ถอดเสื้อและกางเกงแต่อย่างใด การกระทำของ จำเลยที่ 3 เป็นเพียงกระทำอนาจารผู้เสียหายเท่านั้น การพิจารณาการกระทำความผิด ต้องพิจารณาถึงเจตนาที่แท้จริง เป็นสำคัญ การวินิจฉัยของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำเบิกความของผู้เสียหายปรักปรำจำเลยที่ 3 ไม่อาจรับฟังลงโทษจำเลยที่ 3 ได้นั้น เห็นว่า ศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับฟังข้อเท็จจริงว่าขณะจำเลยที่ 1 ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจำเลยที่ 3 จับมือ กดบ่า ผู้เสียหายไว้ไม่ให้ดิ้น เป็นการร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ผู้เสียหายฎีกาจำเลยที่ 3 โต้แย้งคำวินิจฉัยดังกล่าวของ ศาลล่างทั้งสอง เป็นฎีกาข้อเท็จจริง จำเลยที่ 3 โต้แย้งว่า เป็นฎีกาข้อกฎหมาย ฟังไม่ขึ้น ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกา จำเลยที่ 3 ชอบด้วยความเห็นศาลฎีกาแล้วให้ยกคำร้องของ จำเลยที่ 3

Share