แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา มีเหตุผลเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ได้แต่ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์บังคับให้โจทก์ต้องใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนจำเลยโดยกำหนดค่าทนายความอีก 60,000 บาท หากโจทก์ต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความแก่จำเลยตาม คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในขณะนี้จะทำให้โจทก์ต้องเสียหาย หากโจทก์ชนะคดีจำเลยในที่สุด โปรดอนุญาตให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน หมายเหตุ จำเลยแถลงคัดค้าน (อันดับ 145) ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน3,034,906 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 18 มกราคม 2535 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระให้แก่โจทก์แล้วเสร็จ แต่ดอกเบี้ยนับถึงวันฟ้องไม่เกินจำนวน 246,586 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกาพร้อมกับยื่นคำร้องนี้และโจทก์ได้วางเงิน ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความใช้แทนจำนวน 136,077.50 บาท ต่อศาลชั้นต้น (อันดับ 139,138)
คำสั่ง เงินค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่โจทก์ได้นำมาวาง เพื่อใช้แทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ประกอบด้วยมาตรา 247 เมื่อคดียังไม่ถึงที่สุด จำเลยซึ่งเป็นคู่ความ ฝ่ายที่ชนะคดีในชั้นอุทธรณ์ยังขอรับเงินจำนวนนี้จากศาลไปไม่ได้ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ