แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยที่ 1ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย เป็นการชอบแล้ว ให้ยกคำร้องของ จำเลยเสีย จึงเป็นกรณี ที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่ง ดังกล่าวย่อมเป็นที่สุดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 198 ทวิ จึงไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เห็นว่า ศาลชั้นต้นจะพิจารณาคดีใหม่ได้ต้องมีคำสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องใหม่ก่อนตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ แต่ศาลชั้นต้นกลับมีคำสั่งให้สืบพยานโจทก์เลยโดยไม่เปิดโอกาส ให้จำเลยที่ 1 ให้ทนายความได้ซักค้านในชั้นไต่สวน มูลฟ้องใหม่นี้ซึ่งขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคท้าย คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้พิจารณาคดีใหม่ เป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย จึงมิใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา แม้ศาลอุทธรณ์จะสั่งยืนตามศาลชั้นต้นก็ตาม โปรดมีคำสั่งให้รับ ฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาต่อไปด้วย หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นยกฟ้อง เพราะโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัด โจทก์ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าโจทก์ไม่จงใจผิดนัดไม่มาศาล และอนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ จำเลยที่ 1 ที่ 2ต่างอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า เป็นอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณา จึงไม่รับอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ต่างอุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์อ้างว่าคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่เกิดขึ้นภายหลังคำพิพากษาคำสั่งดังกล่าวไม่ใช่คำสั่งระหว่างพิจารณา และไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้ทันที ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า แม้ศาลชั้นต้นเคยมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์แต่คำพิพากษาดังกล่าวมิใช่เป็นข้อชี้ขาดตัดสินคดี เมื่อศาลชั้นต้นได้สั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่เพื่อให้มี คำพิพากษาชี้ขาดต่อไป คำสั่งดังกล่าวย่อมเป็นคำสั่งระหว่าง พิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน จึงต้องห้ามมิให้จำเลย อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยเป็นการชอบแล้ว ให้ยกคำร้องของ จำเลยเสีย จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(ถ้อยคำสำนวนอันดับ 3) จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (ถ้อยคำสำนวนอันดับ 4)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธ ของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 คำสั่งของศาลอุทธรณ์ ดังกล่าวจึงเป็นที่สุดแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ทวิ วรรคท้าย จำเลยที่ 1 ฎีกาคำสั่งนี้อีกไม่ได้ ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง