แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์กู้เงินนายอ่อนและมอบที่นาพิพาทซึ่งเป็นของโจทก์ให้นายอ่อนทำกินต่างดอกเบี้ย เมื่อโจทก์ชำระหนี้แก่นายอ่อนแล้ว โจทก์จะเข้าครอบครองจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้โจทก์เข้าครอบครอง โดยอ้างว่าซื้อมาจากนายอ่อนพฤติการณ์เช่นนี้ย่อมถือว่า โจทก์ถูกจำเลยแย่งการครอบครอง
โจทก์ฟ้องคดีเป็นเวลาเกิน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์ถูกแย่งการครอบครองแล้ว คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรค 2
ย่อยาว
คดีได้ความว่า โจทก์กู้เงินนายอ่อนแล้วมอบนาพิพาทซึ่งเป็นของโจทก์และเป็นที่มือเปล่าให้นายอ่อนทำต่างดอกเบี้ย ต่อมาโจทก์ชำระเงินให้แก่นายอ่อน จะเข้าครอบครอง จำเลยไม่ยอมโดยอ้างว่าระหว่างที่โจทก์มอบนาให้นายอ่อนทำกินต่างดอกเบี้ย จำเลยได้ซื้อนาพิพาทจากนายอ่อน และครอบครองจนบัดนี้ โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลแสดงว่า นาพิพาทเป็นของโจทก์และขับไล่จำเลย จำเลยให้การว่าจำเลยได้ซื้อหรือแลกเปลี่ยนนาพิพาทจากนายอ่อน ได้ครอบครองต่อเนื่องเกิน 10 ปีแล้ว และคดีของโจทก์ขาดอายุความโจทก์จำเลยไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นเห็นว่า นายอ่อนไม่มีอำนาจขายนาพิพาทให้แก่จำเลย นายังเป็นของโจทก์คดียังไม่ขาดอายุความเพราะโจทก์ได้ฟ้องนายอ่อนเป็นคดีอาญา เมื่อ พ.ศ. 2489 พิพากษาว่า นาเป็นของโจทก์ ให้ขับไล่จำเลย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีขาดอายุความแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่า นาพิพาทยังอยู่ในครอบครองของจำเลย โจทก์ฟ้องเรียกคืน จึงได้ชื่อว่าจำเลยเป็นผู้ถูกแย่งการครอบครอง คดีไม่ขาดอายุความ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่นาพิพาทเดิมเป็นของโจทก์ เมื่อโจทก์ชำระหนี้แก่นายอ่อนแล้วในเดือนมิถุนายน 2488 โจทก์จะเข้าครอบครองจำเลยขัดขวางไม่ยอมให้โจทก์เข้าครอบครอง โดยอ้างว่าซื้อจากนายอ่อน พฤติการณ์เช่นนี้ย่อมถือได้ว่า โจทก์ถูกจำเลยแย่งการครอบครอง โจทก์มายื่นฟ้องคดีนี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2489 เป็นเวลาเกิน 1 ปีนับแต่วันถูกแย่งการครอบครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 วรรค 2 คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความฟ้องร้องแล้ว
พิพากษายืน