คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จ้างโรงงานหีบอ้อยเป็นน้ำตาล เมื่อได้น้ำตาลแล้วโรงงานไม่ยอมมอบให้จนต้องฟ้องขอให้ศาลบังคับให้ส่งมอบน้ำตาลดังนี้ วัตถุแห่งหนี้ก็คงเป็นน้ำตาลจำนวนนั้น จะกลายเป็นหนี้เงินโดยคำนวณเอาตามราคาน้ำตาลในขณะที่หีบน้ำตาลเสร็จและผิดนัดไม่ได้ เมื่อโรงงานไม่สามารถส่งน้ำตาลให้ได้ ก็ต้องใช้ราคาน้ำตาลโดยคำนวณราคาในขณะที่เจ้าหนี้ร้องขอต่อศาลให้บังคับชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 213

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บริษัทจำเลยรับจ้างหีบอ้อยเป็นน้ำตาลให้แก่โจทก์เมื่อหักเป็นค่าจ้างแล้วเป็นน้ำตาลได้แก่โจทก์ 331028 หาบ โจทก์ขอรับไป จำเลยไม่ยอมให้ จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยส่งมอบน้ำตาลจำนวนนี้แก่โจทก์ ถ้าส่งมอบไม่ได้ให้จำเลยใช้ราคาคิดราคาหาบละ 120 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบน้ำตาลแก่โจทก์ ถ้าส่งไม่ได้ให้ใช้ราคาในขณะหีบน้ำตาลเสร็จในอัตราหาบละ 16 บาท

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะข้อใช้ราคาเป็นราคาหาบละ 120 บาท

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า หนี้ที่จำเลยจะต้องปฏิบัติชำระในเรื่องนี้ คือน้ำตาล 331028 หาบอันเป็นทรัพย์ที่เป็นประเภท เมื่อจำเลยผิดนัดหรือจะเลยเสียไม่ปฏิบัติการชำระหนี้ตลอดมาจนกระทั่งเจ้าหนี้ต้องร้องขอต่อศาลให้บังคับชำระหนี้ หนี้ของจำเลยยังคงเป็นน้ำตาลจำนวนนั้นอยู่นั่นเอง จะกลับกลายเป็นหนี้เงินโดยคำนวนเอาตามราคาทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งหนี้ในขณะที่ลูกหนี้ผิดนัดหาได้ไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าเวลาอันเป็นฐานที่ตั้งแห่งการกะประมาณราคาวัตถุแห่งหนี้ในกรณีนี้คือ เวลาที่เจ้าหนี้ร้องขอต่อศาลสั่งให้บังคับชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 213 เพราะการอันมีกำหนดพึงกระทำเพื่อชำระหนี้นั้นมีอยู่อย่างเดียวคือการส่งมอบน้ำตาลจำนวนดังกล่าว ลูกหนี้หามีสิทธิจะเลือกชำระหนี้เงินได้ไม่จำเลยจะเลือกชำระเป็นหนี้เงินได้ก็ด้วยคำฟ้องของโจทก์เองเท่านั้นจึงพิพากษายืน

Share