คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินมีมะพร้าว 4-5 ต้นนอกนั้นเป็นป่า ถือว่ายังไม่มีสภาพเป็นที่สวน
เอาเงินเขามา แล้วทำหนังสือมอบที่ดินมือเปล่าให้เขาปกครองเป็นเจ้าของ ถือว่าได้สละเจตนาครอบครองแล้วการครอบครองของเจ้าของเดิมย่อมสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1377 วรรคต้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทหมาย ก.ข. เป็นของบิดาโจทก์ บิดาโจทก์กู้เงินจำเลย 30 บาท มอบที่หมาย ก. ให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ยบิดาโจทก์ตาย จำเลยได้เข้าปกครองที่หมาย ข. ไว้แทนโจทก์และพี่น้องของโจทก์ บัดนี้โจทก์ขอไถ่และคืนที่ จำเลยไม่ยอม จึงต้องฟ้องขอให้ศาลบังคับ

จำเลยต่อสู้ว่า ที่หมาย ก.ข. เป็นที่แปลงเดียวกันบิดาโจทก์เอาเงินจำเลยไป 60 บาท มอบที่ดินรายนี้ให้จำเลย ๆ ปกครองมาหลายปีได้สิทธิแล้ว เพราะที่ดินมีมะพร้าว 4-5 ต้น นอกนั้นเป็นป่ายังไม่มีสภาพเป็นที่สวน

ศาลชั้นต้นฟังว่า บิดาโจทก์สละการครอบครองให้จำเลยแล้วพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยคืนที่แก่โจทก์

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกา ฟังข้อเท็จจริงว่า ที่พิพาทมีมะพร้าว 4-5 ต้นนอกนั้นเป็นป่า จึงยังไม่มีสภาพเป็นสวน บิดาโจทก์คงมีสิทธิครอบครองไม่ใช่มีกรรมสิทธิ์ เมื่อสละการครอบครองให้จำเลยแล้วการครอบครองของบิดาโจทก์ก็ย่อมสิ้นสุดลง แม้หนังสือมอบกรรมสิทธิ์(ความจริงเป็นแต่สิทธิครอบครอง) จะมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งตกเป็นโมฆะก็ดี จำเลยก็ได้เข้าครอบครองที่พิพาทเด็ดขาดมาหลายปีแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิขอไถ่ จึงพิพากษากลับศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น

Share