แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำว่า “สิ่งของ” ตามพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควร มิได้มุ่งหมายเฉพาะ”วัตถุ” ตามปทานุกรมเท่านั้น แต่หมายถึงวัตถุหรือสัตว์ ซึ่งอาจซื้อขายได้
โคของกลางที่จำเลยกระทำผิดฝ่าฝืนประกาศผิดพ.ร.บ.ป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น หากเป็นของผู้อื่น ซึ่งมิได้กระทำผิดด้วยจะริบเสียไม่ได้ ต้องคืนให้เจ้าของ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ยักย้ายโค 2 ตัวของ ย. ผู้เป็นลุงจากบ้านข้างวัดโคกเสม็ด ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาเพื่อเอาไปเลี้ยงในเขตท้องที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการฯ แต่ถูกจับเสียก่อนในระหว่างทาง จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลยคนละ 50 บาท โดยลดกึ่งหนึ่งแล้วตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร มาตรา 6, 8, 10, 17, 18กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59, 18 ริบโคของกลางและให้จ่ายเงินรางวัลและสินบน
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โคไม่ใช่สิ่งของตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร คณะกรรมการฯ ไม่มีอำนาจประกาศห้ามยักย้ายโค โดยอาศัย พระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว แม้จำเลยอุทธรณ์เฉพาะข้อริบโค ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายกฟ้องได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้องคืนโคของกลาง แต่มีความเห็นแย้งว่า ควรพิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำว่า “สิ่งของ” ตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควรนั้น มิได้มุ่งหมายเฉพาะ “วัตถุ” ตามปทานุกรมเท่านั้น แต่หมายถึงวัตถุหรือสัตว์ซึ่งอาจมีการซื้อขายได้ เช่นโค, กระบือ, สุกร และเป็ดไก่ เป็นต้น แต่ที่ศาลชั้นต้นให้ริบของกลางด้วยนั้น พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร 2490 มาตรา 29 หาได้บัญญัติให้ริบโดยไม่คำนึงถึงทรัพย์ของผู้อื่นไม่โคของกลางรายนี้เป็นของ ย. ๆ ไม่ได้ถูกฟ้องด้วยจึงริบไม่ได้ส่วนเงินสินบนอัยการไม่มีอำนาจฟ้องเรียก
พิพากษาแก้ บังคับคดีไปตามศาลชั้นต้น เว้นแต่ข้อริบทรัพย์กับเงินสินบนให้ยก คืนโคของกลาง