คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์จำหน่ายฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์เสียโดยทนายโจทก์ไม่มีอำนาจเรียงฟ้องอุทธรณ์ เพราะขาดต่อใบอนุญาตเป็นทนาย ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องจำเลยฎีกาดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลสั่งรับคำคู่ความตามมาตรา 18 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เข้าอยู่ในบทบัญญัติแห่งมาตรา 227, หรือ 228 ซึ่งจะต้องอุทธรณ์ฎีกาก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีได้ กรณีต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 226 ซึ่งจำเลยยังฎีกาในขณะนี้มิได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2492 โดยพระไชยศาสตร์ทนายโจทก์เป็นผู้เรียงคำฟ้อง ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่าพระไชยศาสตร์มิได้ต่อใบอนุญาตทนายในปี 2492 ขอให้ศาลอุทธรณ์จำหน่ายอุทธรณ์ของโจทก์เสีย เพราะพระไชยศาสตร์ไม่มีอำนาจเป็นผู้เรียงฟ้องอุทธรณ์ เป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติทนายความ 2477 มาตรา 6, 8 ศาลอุทธรณ์สั่งให้ยกคำร้องของจำเลยเสีย โดยเห็นว่าพระไชยศาสตร์ได้เรียงคำฟ้องอุทธรณ์ไว้ก่อน พ.ศ. 2492

จำเลยฎีกาว่าควรฟังว่าพระไชยศาสตร์ได้เรียงฟ้องอุทธรณ์ในปีพ.ศ. 2492

ศาลฎีกาเห็นว่า ฎีกาเช่นนี้เป็นกรณีที่ศาลได้สั่งรับคำคู่ความตามมาตรา 18 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ไม่เข้าอยู่ในบทบัญญัติแห่งมาตรา 227 หรือ 228 ซึ่งจะอุทธรณ์ฎีกาก่อนที่จะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดคดีได้ กรณีต้องบังคับตามบทบัญญัติแห่งมาตรา 226 ซึ่งจำเลยยังจะฎีกาในขณะนี้มิได้ จึงให้ยกฎีกาจำเลยเสีย

Share