แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผ้าเช็ดฝิ่นไม่ใช่สิ่งที่ผสมอยู่กับฝิ่นตามความหมายในมาตรา3(1) แห่ง พระราชบัญญัติฝิ่น 2472 จึงจะถือว่าเป็นฝิ่นไม่ได้
เมื่อไม่ปรากฏราคามูลฝิ่นของกลางตามราคาซึ่งรัฐบาลขายในท้องที่และเวลาเกิดเหตุก็ไม่มีทางจะคำนวณ 5 เท่าของราคามูลฝิ่นของกลางได้ จึงต้องปรับในอัตราขั้นต่ำในกฎหมาย
(อ้างฎีกา 1037/2482,768/2492)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพ คดีได้ความว่า จำเลยมีกล้องสูบฝิ่น 1 คัน ตะเกียง ตาชั่งผสมฝิ่น และใบลาน กับมูลฝิ่นผ้าเช็ดฝิ่น มูลฝิ่นรวมหนัก 17 กรัม 50 เซ็นติกรัม คิดตามราคาฝิ่นที่รัฐบาลขาย ณ ที่เกิดเหตุเป็นเงิน 70 บาท และจำเลยได้ใช้เครื่องอุปกรณ์ดังกล่าวสูบฝิ่นนอกร้านฝิ่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าผ้าเช็ดฝิ่น ไม่ใช่ฝิ่นจำเลยคงมีมูลฝิ่น 6 กรัม 50 เซ็นติกรัมพิพากษาว่าจำเลยมีผิดฐานมีมูลฝิ่นและสูบฝิ่นนอกร้านฝิ่น ให้ปรับ 50 บาทกับร้านมีกล้องสูบฝิ่นให้ปรับ 30 บาท รวมปรับ 80 บาท ลดกึ่งหนึ่งคงปรับ 40 บาท ริบของกลาง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ผ้าเช็ดฝิ่นไม่ใช่สิ่งที่ผสมอยู่กับฝิ่นตามความหมายในมาตรา 3(1) แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น 2472 ผ้าเช็ดฝิ่นของกลางจึงถือว่าเป็นฝิ่นตามความในมาตรา 3(1) ไม่ได้ และราคามูลฝิ่นอันจะตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณค่าปรับ ก็จะต้องถือเอาราคามูลฝิ่นซึ่งรัฐบาลขายในท้องที่และเวลาเกิดเหตุตามมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติฝิ่น 2472 ซึ่งแก้ไขใหม่โดยพระราชบัญญัติฝิ่น (ฉบับที่ 4) 2481 มาตรา 6 ไม่ใช่ถือเอาราคาฝิ่นและเมื่อไม่ปรากฎราคามูลฝิ่นของกลาง ก็ไม่มีทางจะคำนวณค่าปรับ 5 เท่าของราคามูลฝิ่นของกลางได้ จึงต้องปรับจำเลยในอัตราขั้นต่ำในกฎหมาย
พิพากษายืน