แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีอาญาวันนัดไต่สวนมูลฟ้อง มีแต่ทนายโจทก์ไปศาลแต่โจทก์ไม่ไปศาล พยานก็ไม่ไปศาลเช่นนี้ ถ้าทนายโจทก์ขอเลื่อน ก็อยู่ในดุลพินิจของศาลที่ให้เลื่อนหรือไม่
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นไม่สมควรให้เลื่อน จึงเป็นอันยุติตามที่ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ชี้ไว้ เพราะเป็นดุลพินิจ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 155,157, 222 ถึง 225, 227
ถึงวันนัดไต่สวน โจทก์ไม่ไปศาล พยานก็ไม่มีทนายโจทก์แถลงว่าได้บอกให้โจทก์ทราบวันนัดแล้วทั้งได้ให้โจทก์เป็นผู้ส่งหมายแก่พยานแต่โจทก์และพยานโจทก์ไม่มีไปศาลตามวันนัด ไม่ทราบเหตุขัดข้องเข้าใจว่าป่วย ขอเลื่อน
ทนายจำเลยคัดค้าน ไม่ให้เลื่อน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า โจทก์ทราบวันนัดแล้ว การที่ไม่ไปศาลเพราะเหตุใด ทนายโจทก์ยืนยันไม่ได้ ไม่มีเหตุสมควรให้เลื่อน ให้ยกฟ้องเสีย อนึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 คำว่า โจทก์ไม่หมายความถึงทนายโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในกรณีเช่นนี้อยู่ในดุลยพินิจของศาลคดีศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ไม่เห็นสมควรเลื่อน จึงเป็นอันยุติตามที่ศาลล่างชี้ไว้ เพราะเป็นดุลยพินิจ เมื่อคดีเลื่อนไม่ได้ เช่นนี้แล้วและพยานก็ไม่มีมาศาล คดีก็ต้องถูกยกฟ้อง
จึงพิพากษายืน