คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สามีเคยให้ภรรยาเอาที่ดินไปจำนองและมอบเงินไปชำระดอกเบี้ย และไถ่ถอนมาหลายครั้งแล้ว. ภายหลังภรรยาเอาที่นี้ไปขายฝากไว้แก่ผู้อื่นอีก. แล้วสามีมาขอบอกล้าง ให้ทำลายนิติกรรมโดยอ้างว่าไม่ได้รับความยินยอมจากสามีนั้น.เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต ตาม ป.พ.พ. ม.5 การบอกล้างไม่มีผล.(อ้างฎีกาที่ 468/2488).

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นางชินภรรยาโจทก์ เอาที่นาเลขที่ 1644ซึ่งเป็นสินสมรสไปขายฝากจำเลยไว้ โดยโจทก์มิได้รู้เห็นยินยอมจึงขอให้ศาลสั่งทำลายนิติกรรมการขายฝากรายนี้ จำเลยต่อสู้ว่า นาพิพาทเป็นทรัพย์ส่วนตัวของนางชิน ๆ เคยเอาไปจำนองและขายฝากผู้อื่นมาหลายครั้งแล้ว โจทก์ทราบและยินยอมทั้งโดยตรงและปริยายตลอดมา ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ วินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกันว่าโจทก์เคยให้นางชินภรรยาเอาที่รายนี้ ไปจำนอง และมอบเงินไปชำระดอกเบี้ย และไถ่ถอนมาหลายครั้งแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง โดยถือว่าโจทก์ใช้สิทธิไม่สุจรติตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 468/2488 โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า ตามพฤติการณ์ที่ได้ความดังกล่าวแล้ว ศาลล่างทั้ง 2 ยกบทกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 มาใช้บังคับประกอบคำพิพากษาฎีกาที่ 468/2488 เป็นการถูกต้องชอบแล้ว พิพากษายืน.

Share