แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับผู้ถูกทำร้ายมีสาเหตุกันอยู่ก่อน ขณะเกิดเหตุผู้ถูกทำร้ายยืนดูรำโทนอยู่จำเลยมาเรียกและถามว่า’อ้ายทองจะเอาหรือ’ ผู้ถูกทำร้ายตอบว่า ‘เอา’ ทันใดจำเลยก็แทงผู้ถูกทำร้าย 3 ที ติดๆ กัน ดังนี้จะฟังว่าผู้ถูกทำร้ายสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยยังไม่ได้ อำนาจฟ้องของโจทก์ผู้ถูกทำร้ายหาเสียไปไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้มีดแทงนายทองบุตรโจทก์บาดเจ็บรูปหน้าเสียโฉม จำเลยปฏิเสธศาลชั้นต้นเชื่อพยานโจทก์แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้ช่วยเหลือทำร้ายนายทอง แต่อย่างใด และบาดแผลนายทองเพียงเล็กน้อย ให้จำคุกจำเลยที่ 1 หนึ่งเดือนรอการลงอาญา ปล่อยจำเลยที่ 2
ศาลอุทธรณ์ว่า นายทองเบิกความว่าขณะยืนดูรำโทน นายแก้วมาร้องเรียกว่า “อ้ายทองออกมานี่” นายทองหันไปดู นายแก้วก็ว่า”อ้ายทองจะเอาหรือ” นายทองตอบว่า”เอา” ทันใดนายแก้วก็แทงนายทอง 3 ทีติด ๆ กัน สาเหตุเรื่องพี่ชายนายทองไปพาเอาเมียนายแก้วมานายแก้วได้พูดชวนวิวาทอยู่เรื่อย ฟังได้ว่านายทองสมัครใจวิวาทต่อสู้กับนายแก้ว และเห็นว่านายทองไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้อง (อ้างฎีกา 538-539/2483) โจทก์ผู้เป็นบิดานายทองจึงฟ้องแทนไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นายทองเพียงแต่ตอบนายแก้วไปคำเดียวว่า “เอา” เท่านั้น มิได้แสดงกิริยาว่าจะเข้าต่อสู้กับนายแก้วแต่อย่างใดนายแก้วจำเลยก็ใช้มีดแทงเอานายทองฝ่ายเดียวโดยทันที นายทองมิได้ทำอะไรนายแก้วเลย ดังนี้จะฟังว่า นายทองสมัครใจเข้าวิวาทต่อสู้กับนายแก้วยังไม่ได้ อำนาจฟ้องของโจทก์หาเสียไปไม่ ส่วนข้อเท็จจริงเชื่อตามศาลชั้นต้น ๆ ลงโทษและรอการลงอาญานายแก้วสมควรแล้ว
พิพากษากลับให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น