แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรในระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายนแต่พยานโจทก์ทุกคนเบิกความว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11,12 มิถุนายน ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องต้องพิพากษายกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า พยานเบิกความถึงวันเกิดเหตุต่างกับฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ส่งคำให้การชั้นสอบสวนพยานโจทก์ทุกคนต่อศาล คำให้การชั้นสอบสวนลงวันที่ 27, 28, 29 มิถุนายน ทั้งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะเขียนวันผิดไปตั้ง 14-15 วันศาลอุทธรณ์เชื่อว่าพยานโจทก์เบิกความอ้างข้างแรมผิด เป็นข้างขึ้นไม่ควรวินิจฉัยตามความเข้าใจผิดของพยานอันผิดกับความจริงไปจึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้สืบพยานแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อพยานโจทก์ทุกคนเบิกความว่า การกระทำผิดรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 11, 12 มิถุนายน โจทก์ก็ไม่มีพยานหลักฐานอันใดที่จะแสดงว่า จำเลยได้กระทำผิดในระหว่างวันที่ 26, 27 มิถุนายน ดังฟ้องโจทก์ คำให้การชั้นสอบสวน จะรับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในศาล ศาลจะไม่ฟังพยานโจทก์ ที่เบิกความต่อศาลกลับไปเอาคำพยานชั้นสอบสวนมาฟังลงโทษจำเลยนั้นหาได้ไม่
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น