แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กฎหมายฝิ่นไม่ได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับฉะนั้นศาลย่อมลงโทษจำคุกจำเลยสถานเดียวได้ตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 11,23
พระราชบัญญัติฝิ่น 2472 แก้ไขเพิ่มเติม 2476 มาตรา 9 บัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษตามรายตัวผู้กระทำผิดฉะนั้นจะนำกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 71 มาใช้ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันมีฝิ่นโดยมิชอบด้วยกฎหมายไว้ในครอบครองและสมคบกันสูบฝิ่นนอกร้านโดยมิได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษ
จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472มาตรา 8, 14, 53, 69 แก้ไข พ.ศ. 2476 มาตรา 9 พระราชบัญญัติฝิ่น (ฉบับที่ 6) มาตรา 6, 7 ให้จำคุกคนละ 6 เดือน เพิ่มโทษจำเลยที่ 2 ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 72 อีก 1 ใน 3 เป็นโทษจำคุก 8 เดือน ลดฐานรับสารภาพกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1, 3 เดือนจำคุกจำเลยที่สอง 4 เดือน
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา แต่ส่งสำเนาฎีกาแก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามกฎหมายฝิ่นไม่ได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษว่า จะต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ ศาลย่อมลงโทษจำคุกจำเลยสถานเดียวได้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 11, 23
ส่วนข้อที่โจทก์คัดค้านว่า ต้องเรียงกระทงลงโทษนั้นพระราชบัญญัติฝิ่นพ.ศ. 2472 แก้ไขเพิ่มเติม 2476 มาตรา 9 บัญญัติให้เรียงกระทงลงโทษตามรายตัวผู้กระทำผิด ฉะนั้นจะนำมาตรา 70, 71 กฎหมายลักษณะอาญามาใช้ไม่ได้จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานสูบฝิ่นไม่ได้รับอนุญาต อีกกระทงหนึ่ง นอกจากนี้คงยืน