คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีอำนาจยึดทรัพย์สินอันเป็นกรรมสิทธิ์ของลูกหนี้มาใช้หนี้ตามคำพิพากษาได้เสมอ แม้ลูกหนี้จะได้เอาทรัพย์นั้นไปวางเป็นประกันเงินกู้ หรือจำนำไว้แก่ผู้ใด หรือผู้ใดจะมีบุริมสิทธิหรือสิทธิยึดหน่วงในทรัพย์นั้นอย่างไร ผู้นั้นก็ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์นั้นไม่ได้คงได้แต่เรียกร้องบังคับตามสิทธิได้ในการบังคับคดีตามกำหนดเวลาในกฎหมายว่าด้วยการนั้น

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์นำยึดรถยนต์หมายเลขทะเบียน ช.ม.0131 อ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2 ผู้ร้องร้องขัดทรัพย์ว่า รถยนต์นั้นเป็นของผู้ร้อง โดยจำเลยที่ 2 ขายกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ร้องแล้วและก่อนขายก็ได้มอบรถยนต์นั้นให้แก่ผู้ร้องเป็นประกันเงินกู้ 8,000 บาท จึงขอให้มีคำสั่งปล่อย

ศาลชั้นต้น ฟังว่าจำเลยที่ 2 ยังไม่ได้ขายรถรายพิพาทให้แก่ผู้ร้อง เป็นแต่เพียงกู้เงินแล้วมอบรถให้ไว้เป็นประกัน จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การมอบรถไว้เป็นประกันเงินกู้นั้นคือการจำนำ จึงพิพากษากลับให้ศาลชั้นต้นจ่ายเงินค่าขายรถพิพาทตามจำนวนสุทธิให้แก่ผู้ร้องเพื่อชำระหนี้จำนำแก่ผู้ร้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อรถยังเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ซึ่งโจทก์มีอำนาจยึดได้โดยชอบด้วยกฎหมายดังนี้ ศาลจะสั่งปล่อยทรัพย์ไม่ได้ส่วนการที่ผู้ร้องจะมีบุริมสิทธิ์หรือสิทธิยึดหน่วงในทรัพย์รายนั้นอย่างไรนั้น ผู้ร้องย่อมเรียกร้องบังคับตามสิทธิได้ในการบังคับคดีตามกำหนดเวลาในกฎหมายว่าด้วยการนั้น จึงพิพากษากลับให้ยกคำร้อง

Share