คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 164/2489

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ของหายในระหว่างมาพักในโรงแรม เมื่อของหายแล้วผู้มาพักก็แจ้งให้ผู้ดูแลแทนผู้จัดการโรงแรมทราบ ดังนี้ผู้จัดการต้องรับผิด
คู่ความรับฟังกันว่า โจทก์มาพักที่โรงแรมจำเลยและของหายจริงการที่โจทก์มาฟ้องระบุวันเกิดเหตุ(วันของหาย) ผิดไปวันหนึ่ง ไม่เป็นเหตุให้ยกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้จัดการโรงแรม วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 โจทก์มาพักโรงแรมจำเลย รุ่งขึ้นโจทก์ไปธุระนอกโรงแรมใส่กุญแจห้องไว้ เมื่อกลับมาปรากฏว่าของ ๆ โจทก์หายไปราคา 133 บาท โจทก์บอกจำเลย จำเลยไม่เอาใจใส่ ขอให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์ที่หาย

จำเลยปฏิเสธความรับผิด

ศาลชั้นต้นฟังว่า ของ ๆ โจทก์หายไปจริง โจทก์มาพักโรงแรมวันที่ 30 มิถุนายน 2487 รุ่งขึ้นไปธุระใส่กุญแจห้องไว้กลับมากุญแจก็เรียบร้อย เมื่อไขเข้าไปปรากฏว่าของหาย โจทก์บอกแก่นายคี้กิ๊ดผู้แทนจำเลยทันที ของหายวันที่ 1 กรกฎาคม 2487 โจทก์ขอแก้ฟ้องศาลไม่อนุญาต แต่เห็นว่า การผิดวันเช่นนี้ไม่ใช่ข้อสำคัญเพราะของโจทก์หายไปจริง การที่ของหายไม่ใช่ความผิดของโจทก์เพราะโจทก์ใส่กุญแจห้อง แม้จำเลยไม่อยู่ขณะนั้นก็อยู่ในความดูแลของเจ้าสำนักโรงแรมซึ่งจำเลยตั้งผู้แทนไว้ โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องมอบทรัพย์แก่จำเลย จำเลยต้องรับผิดตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 674, 675

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาแก้เฉพาะราคาทรัพย์ที่หายเป็นราคา 123 บาท นอกนั้นยืน

จำเลยฎีกา 2 ข้อ 1. จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ 2. ฟ้องโจทก์ผิดวันกับวันที่ของหายจะต้องยกฟ้องหรือไม่ในปัญหาข้อ 1 ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยต้องรับผิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 674, 675 ในปัญหาข้อ 2. จำเลยก็ให้การรับแล้วว่า โจทก์มาพักโรงแรมจำเลยจริง ฉะนั้นการที่ฟ้องโจทก์กล่าวถึงวันของหายผิดไปวันหนึ่งจึงไม่เป็นข้อสำคัญในคดีถึงกับต้องยกฟ้องโจทก์ พิพากษายืน

Share