แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องต่อศาลพลเรือนขอให้ลงโทษตามมาตรา 391 แห่งประมวลกฎหมายอาญาถึงแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าจำเลยทำผิดตามมาตรา 295 ซึ่งอยู่ในอำนาจศาลทหารจะพิจารณาพิพากษาตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 16 ก็ดี ศาลพลเรือนก็ต้องรับฟ้องไว้พิจารณาเพราะไม่มีกฎหมายหรือประกาศคณะปฏิวัติฉบับใดห้ามไว้ และเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะเลือกฟ้องฐานใดก็ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้ไม้ตะบองตีโจทก์ 1 ที เป็นเหตุให้ร่างกายโจทก์ฟกช้ำและโลหิตซับและจำเลยได้บังอาจใช้วาจาขู่เข็ญจะทำร้ายโจทก์ และจะจับกุมโจทก์โดยกล่าวหาว่าเป็นอันธพาล เป็นเหตุให้โจทก์เกิดความหวาดเกรงจะได้รับความอับอาย ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391, 392, 397
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งว่า โจทก์ถูกทำร้ายมีบาดแผลทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายอันเป็นความผิดตามมาตรา 295 ซึ่งตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 16 ให้เป็นอำนาจของศาลมณฑลทหารบกที่ 6 ที่จะพิจารณาพิพากษา และเห็นว่าจำเลยไม่ผิดมาตรา 392, 397 ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ให้ประทับฟ้องเฉพาะความผิดตามมาตรา 392 นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายว่า ถึงแม้จำเลยจะผิดมาตรา 295 โจทก์ก็มีอำนาจฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 391 ได้
ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่มีกฎหมายหรือประกาศของคณะปฏิวัติฉบับใดห้ามมิให้ผู้เสียหายสละสิทธิที่จะฟ้องในข้อหาอันมีโทษหนักแล้วมาฟ้องในข้อหาอันมีโทษเบาไม่ได้ จึงเป็นสิทธิของผู้เสียหายที่จะเลือกฟ้องฐานใดก็ได้ เมื่อฐานความผิดที่โจทก์ฟ้องอยู่ในอำนาจศาลพลเรือน ๆ ก็ต้องรับไว้พิจารณา
พิพากษาแก้ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องตามมาตรา 391 ด้วย นอกนั้นยืน