คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานทำการทุจริตต่อหน้าที่และจดหลักฐานเท็จแต่ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยได้รับแต่งตั้งจากอธิบดีกรมชลประทานให้เป็นช่างบังคับหมู่เขื่อนระบายน้ำโพธิ์เตี้ยมีหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้าง ซ่อมแซมบำรุงรักษา ควบคุมการเบิกจ่ายค่าแรงคนงาน ควบคุมคนงานโดยได้รับเงินค่าจ้างเป็นรายวันจากงบประมาณ ซึ่งมิใช่ประเภทเงินเดือน เมื่อจำเลยได้เบิกค่าแรงคนงานเกินความจริงและจดหลักฐานเท็จ ก็จะเอาผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่และทำหลักฐานเท็จตามฟ้องไม่ได้เพราะถือว่าจำเลยไม่ใช่เจ้าพนักงานและตามฟ้องของโจทก์ก็มิได้บรรยายถึงความผิดอย่างอื่นอันเป็นเรื่องที่เห็นได้ว่า โจทก์มีความประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยซึ่งไม่ใช่ในฐานเป็นเจ้าพนักงานด้วย เมื่อเป็นดังนี้ คดีก็ไม่มีทางจะลงโทษจำเลยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานทำการทุจริตต่อหน้าที่ และจดหลักฐานเท็จ

จำเลยปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อกฎหมายในเบื้องแรกว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าพนักงานทำการทุจริต แต่ได้ความว่า จำเลยนี้ได้รับแต่งตั้งจากอธิบดีกรมชลประทานให้เป็นช่างบังคับหมู่เขื่อนระบายน้ำโพธิ์เตี้ย มีหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างซ่อมแซมบำรุงรักษา ควบคุมการเบิกจ่ายค่าแรงคนงาน ควบคุมคนงานโดยได้รับเงินค่าจ้างเป็นรายวัน จากงบประมาษซึ่งมิใช่ประเภทเงินเดือนจำเลยจึงมิใช่ข้าราชการพลเรือน ตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2497 มาตรา 23 จำเลยจึงมิใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญาไม่มีความผิดฐานเจ้าพนักงานกระทำดังฟ้อง ตามฎีกาที่ 523/2499 พิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยไม่วินิจฉัยข้อเท็จจริงอื่น

โจทก์อุทธรณ์ว่า แม้ว่าจำเลยไม่ได้เป็นข้าราชการตาม พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนก็จริง แต่จำเลยก็เป็นเจ้าพนักงานตาม พระราชบัญญัติชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 มาตรา 4 ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษควรมีความผิดดังฟ้อง

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า สำหรับผู้ที่มิได้เป็นข้าราชการ แม้จะได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างข้าราชการ ก็ไม่ทำให้ผู้นั้นเป็นข้าราชการหรือเจ้าพนักงานขึ้นมาได้ เว้นแต่จะอยู่ในข้อยกเว้นของกฎหมาย แม้โจทก์จะได้กล่าวมาในฟ้องว่า จำเลยรับราชการมีตำแหน่งเป็นช่างและมีหน้าที่ทางธุระการอย่างอื่น ๆ มาด้วยก็ดี ก็เพียงมุ่งหมายว่าจำเลยเป็นข้าราชการตามธรรมดานั่นเอง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกาโดยอ้างเหตุผลเช่นเดียวกับในชั้นอุทธรณ์

ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องนี้โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานเจ้าพนักงานกระทำการทุจริตต่อหน้าที่และจดหลักฐานเท็จ เมื่อถือไม่ได้ว่าจำเลยนี้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญา ดังเหตุผลที่ศาลล่างทั้งสองได้วินิจฉัยไว้โดยละเอียดและอ้างฎีกามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และตามฟ้องของโจทก์ก็มิได้บรรยายถึงความผิดอย่างอื่นอันเป็นเรื่องที่เห็นได้ว่า โจทก์มีความประสงค์จะให้ลงโทษจำเลยซึ่งไม่ใช่ในฐานเป็นเจ้าพนักงานด้วย คดีจึงไม่มีทางจะลงโทษจำเลยได้ พิพากษายืน

Share