แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรยายฟ้องว่าจำเลยเรียกเงินจากบุคคลอื่นเพื่อนำมอบให้แก่ตำรวจผู้จะจับเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจตำรวจไม่ให้จับบุคคลอื่น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143 แต่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นเรื่องตำรวจผู้จะจับใช้จำเลยไปเรียกเงินจากบุคคลอื่น เพื่อจะงดเว้นการจับกุม เมื่อจำเลยไปเรียกเงินก็เป็นผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 เมื่อโจทก์ไม่บรรยายฟ้องฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานทุจริตมา ก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเรียกเงินจากนายสวนกับพวกซึ่งตัดไม้หวงห้ามไม่รับอนุญาต เพื่อมอบให้แก่ตำรวจผู้จะจับเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจตำรวจไม่ให้จับ และคืนไม้ที่จับให้ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยไปบอกนายสวนกับพวกให้นำเงินไปให้ตำรวจผู้จะจับจริง แต่เป็นเรื่องตำรวจใช้จำเลยไป ไม่ใช่จำเลยเป็นผู้ไปเรียกเงินให้ตำรวจเอง จำเลยจึงมิได้เจตนาเรียกเงินดังฟ้องจะว่าจำเลยสมรู้กับตำรวจก็ไม่ถนัด เพราะนายสวนกับพวกเอาเงินไปให้ตำรวจเอง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า คดีฟังได้ว่าจำเลยเรียกเงินจากนายสวนกับพวกให้ตำรวจเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจหรือจูงใจตำรวจจริง พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 143
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า พยานโจทก์เองว่าจำเลยมาพูดว่าตำรวจใช้จำเลยมาบอกให้เอาเงินไปให้ตำรวจจะคืนไม้ให้ ไม่ส่งอำเภอ นายสวนกับพวกก็เอาเงินไปให้ตำรวจเองแต่ฟ้องโจทก์กลับบรรยายว่าจำเลยเรียกเงินจากนายสวนกับพวกเป็นการตอบแทนที่จำเลยจะจูงใจหรือได้จูงใจตำรวจให้กระทำผิดหน้าที่ อันเป็นความผิดตามกฎหมายต่างบทต่างฐานกันคือ การกระทำของจำเลยตามคำพยานโจทก์ เป็นการสนับสนุนในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 อันเป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน แต่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเรียกเงินเพื่อให้ตำรวจเป็นการตอบแทนในการที่จะจูงใจ หรือได้จูงใจเจ้าพนักงานไม่ให้กระทำตามหน้าที่จึงลงโทษจำเลยตามฟ้องโจทก์ไม่ได้
พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์