คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและเคยถูกฟ้องศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว พ้นโทษแล้วก็ยังคงอยู่ในราชอาณาจักรตลอดมา โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษฐานเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาตอีกไม่ได้ เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) และในกรณีเช่นนี้เป็นหน้าที่สั่งให้ส่งตัวคนต่างด้าวออกไปนอกราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2493 มาตรา 66

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าในปี พ.ศ. 2483 จำเลยซึ่งเป็นคนต่างด้าวได้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่มีหนังสือเดินทาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 มาตรา 15, 21, 58

จำเลยให้การปฏิเสธและว่าเป็นฟ้องซ้ำกับคดีอาญาแดงที่64/2496 ทั้งคดีขาดอายุความแล้ว

ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าวชาติเขมร และเคยถูกศาลลงโทษฐานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่รับอนุญาตตามคดีแดงที่ 64/2496 แล้วจำเลยยังคงอยู่ในประเทศไทยตลอดมาจนถูกฟ้องคดีนี้ จึงเป็นฟ้องซ้ำกับคดีแดงดังกล่าว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นด้วยว่าเป็นฟ้องซ้ำ และคดีขาดอายุความแล้วด้วยพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องมิได้บรรยายว่าจำเลยเคยถูกเนรเทศแล้วหลบหนีเข้ามาและข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าจำเลยได้ออกจากราชอาณาจักรไปแล้วหลบหนีเข้ามา เมื่อจำเลยเคยถูกศาลลงโทษในคดีแดงที่ 64/2496 ในฐานเดียวกับคดีนี้จนพ้นโทษแล้วจำเลยยังคงอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาตหลังจากพ้นโทษในคดีก่อนแล้วก็ดีการกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิด ดังเห็นได้จากพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2493 มาตรา 66 ที่บัญญัติให้เจ้าหน้าที่สั่งให้ส่งตัวจำเลยออกไปนอกราชอาณาจักร ส่วนปัญหาคดีขาดอายุความไม่จำต้องวินิจฉัย

พิพากษายืน

Share