คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าเล่นการพนัน โจทก์ไม่มีหลักฐานอย่างใด นอกจากคำรับของจำเลยในชั้นสอบสวน ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธแต่เมื่อจำเลยเบิกความเป็นพยานอ้างตนเอง ได้เบิกความตอบคำซักค้านของโจทก์ว่า ได้เล่นการพนันจริงดังนี้ไม่พอฟังลงโทษจำเลย

ย่อยาว

เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ความว่า จำเลยเป็นเจ้ามือการพนันสลากกินรวบ วันที่ 15 ธันวาคม 2501 เจ้าพนักงานตำรวจจึงไปตรวจค้นบ้านจำเลยไม่ได้ของกลางอย่างใดเลย แต่ก็จับจำเลยไปทำการสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่า เป็นเจ้ามือสลากกินรวบมา 2 ปีแล้วเพิ่งเลิกเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2501 ในชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ แต่เมื่อจำเลยเบิกความเป็นพยานตนเองได้เบิกความว่า จำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนเพราะถูกขู่ว่าจะขัง 30 วัน และตอบคำซักค้านของโจทก์ว่าในเดือนพฤศจิกายน 2501 จำเลยยังคงเล่นสลากกินรวบอยู่ จึงได้รับสารภาพไปเช่นนั้น

ศาลชั้นต้นอาศัยคำรับชั้นสอบสวนกับคำเบิกความของจำเลยชั้นศาลซึ่งถือว่ารับข้อเท็จจริงแล้ว พิพากษาลงโทษจำเลย

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำรับชั้นสอบสวนเป็นเพียงหลักฐานอย่างหนึ่งของโจทก์เท่านั้น แต่ชั้นศาลจำเลยให้การปฏิเสธ โจทก์จึงต้องสืบให้ได้ความว่าจำเลยทำผิดคำเบิกความของจำเลยในชั้นศาลเป็นแต่เพียงประกอบคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเท่านั้นหาใช่คำรับสารภาพของจำเลยชั้นศาลพิจารณาไม่ เมื่อหลักฐานพยานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยทำผิด จะฟังคำรับของจำเลยชั้นสอบสวนมาลงโทษไม่ได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นหน้าที่ของโจทก์จะต้องสืบว่าจำเลยกระทำผิดจึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ด้วยเหตุผลเช่นเดียวกัน

Share