แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำรับของจำเลยต่อพนักงานสอบสวนนั้นเมื่อปรากฏว่าพนักงานสอบสวนมิได้ตักเตือนจำเลยเสียก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 จึงรับฟังเป็นคำรับสารภาพชั้นสอบสวนยันจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้ง 4 สมคบกันปล้นทรัพย์นายหำ และทำร้ายนายหำบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้ง 4 ปฏิเสธอ้างฐานที่อยู่
ศาลชั้นต้นเห็นว่านายคันที นายบัง เป็นคนร้ายฟังไม่สู้สนิทเพราะพยานโจทก์เบิกความตอนที่คนร้ายเอาของออกจากห้องเรือนและการที่คนร้ายยิงปืน ไม่สู้ตรงกันดี พิพากษาว่านายพิมพ์ นายบางมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 301 ให้จำคุก 18 ปี ลดโทษฐานรับสารภาพชั้นสอบสวน 1 ใน 3 คงจำคุก12 ปี ปล่อยตัวนายคันทีและนายบังจำเลย
นายพิมพ์พาและนายบางจำเลยอุทธรณ์ คดีเฉพาะนายคันทีและนายบังจำเลยเป็นอันยุติ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องเฉพาะนายพิมพ์พาจำเลย นอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษนายพิมพ์พา ฝ่ายนายบางจำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษ
ส่วนคำรับของนายบางจำเลยที่ 2 ตามบันทึกของนายอุดมปลัดอำเภอพนักงานสอบสวนนั้นปรากฏว่าเจ้าพนักงานมิได้ตักเตือนจำเลยเสียก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134 จึงรับฟังยันจำเลยไม่ได้
ทั้งนายอุดมและพลตำรวจบุรีผู้บันทึกจับกุม ก็ซัดกันไปมาเกี่ยวกับคำรับสารภาพของจำเลย
พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยนายบาง จำเลยนอกนั้นยืน