แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เสมียนรถไฟมีหน้าที่รับผิดชอบในการรับจ่ายสินค้า ได้จ่ายสินค้าให้แก่จำเลยเพราะถูกจำเลยหลอกลวง โดยอ้างว่าเป็นเจ้าของสินค้านั้น เมื่อเสมียนรถไฟจ่ายสินค้าผิดตัวผู้รับไปก็จะต้องรับผิดชอบ ดังนั้น เสมียนรถไฟจึงเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้หลอกลวงนายสมบุญ ทั่งทอง เสมียนผู้ดูแลรักษาสินค้าสถานีรถไฟสุไหงโกลกว่า จำเลยเป็นนายเปลื้อง ฉิมบรรยง เจ้าของพันธุ์ไม้ต่าง ๆ รวม 15 เข่ง ที่ส่งมากับรถไฟแต่ใบอินวอยซ์ (ใบส่ง-รับของ) หายไป นายสมบุญหลงเชื่อ จึงได้มอบพันธุ์ไม้ 15 เข่งรวมราคา 10,000 บาทแต่ความจริงไม่ใช่นายเปลื้องเจ้าของพันธุ์ไม้ และไม่ได้ทำใบอินวอยซ์หาย ต่อมาเจ้าพนักงานและพวกผู้เสียหายติดตามได้พันธุ์ไม้หลายอย่างของนายเปลื้องได้ที่บ้านนายส้าน โลหะวิจารณ์ ซึ่งจำเลยนำไปฝากไว้ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลจังหวัดนราธิวาสยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้หลอกลวงนายสมบุญด้วยข้อความอันเป็นเท็จมารับพันธุ์ไม้ของนายเปลื้องไปจากนายสมบุญโดยทุจริตนายสมบุญหลงเชื่อได้มอบให้ไป เป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามฟ้อง
ข้อที่จำเลยฎีกาว่า องค์การรถไฟผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ส่วนนายสมบุญไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิร้องทุกข์นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4) บัญญัติว่าผู้เสียหาย หมายความถึงบุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งรวมทั้งบุคคลอื่นที่มีอำนาจจัดการแทนได้ ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4, 5 และ 6 ข้อนี้ได้ความจากนายประวิตร นายสถานีสุไหงโกลกผู้บังคับบัญชาของนายสมบุญว่า นายสมบุญเสมียนสถานีผู้รับจ่ายสินค้า จ่ายสินค้าผิดตัวผู้รับไป นายสมบุญต้องเป็นผู้รับผิดชอบเห็นได้ชัดว่านายสมบุญเป็นผู้เสียหายในเรื่องนี้ด้วยอยู่แล้วฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน