คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2385/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำพิพากษาของจำเลยทั้งสองไปแล้วทางแก้คือจำเลยทั้งสองต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์และนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการดังกล่าวจนพ้นกำหนดระยะเวลา คดีย่อมถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง จำเลยทั้งสองไม่อาจยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมตามมาตรา 229 ได้อีก การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และรับฎีกาของจำเลยทั้งสองมาและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยเรื่องการขอขยายระยะเวลาให้จึงเป็นการไม่ชอบ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระหนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์หากไม่ชำระหรือชำระไม่ครบ ให้บังคับจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างขายทอดตลาดชำระหนี้จนครบ และให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสองมิได้ยากจนจริงยังมีเงินพอเสียค่าธรรมเนียมศาลจึงให้ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ และให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วัน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยทั้งสอง หากจำเลยทั้งสองยังติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไป ให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายใน 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่ง ศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยทั้งสองทราบโดยชอบแล้ว แต่จำเลยทั้งสองไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด จนกระทั่งพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งจำเลยทั้งสองกลับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาการวางเงินออกไปอีกโดยอ้างเหตุผลว่าไม่ทราบคำสั่งศาลอุทธรณ์

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยทั้งสอง

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสองฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่า ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2539 จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองให้จำเลยทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระภายใน 15 วัน จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองหากจำเลยทั้งสองยังติดใจอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นให้นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันฟังคำสั่งซึ่งศาลชั้นต้นได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2541 ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองไม่นำเงินค่าธรรมเนียมมาวางภายในระยะเวลาที่ศาลอุทธรณ์กำหนด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2541 จำเลยทั้งสองไม่ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง แต่จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ใหม่ไว้ตั้งแต่วันที่ 20ตุลาคม 2541 เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ดังกล่าวในวันเดียวกันที่มีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองแล้ว จำเลยทั้งสองได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องเพราะศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองไปแล้ว จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองจึงฎีกาเป็นคดีนี้ เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์คำพิพากษาของจำเลยทั้งสองไปแล้ว ทางแก้ของจำเลยทั้งสองคือ จำเลยทั้งสองต้องยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์และนำเงินค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาล และนำเงินมาชำระตามคำพิพากษาหรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 เมื่อจำเลยทั้งสองไม่ดำเนินการดังกล่าวจนพ้นกำหนดระยะเวลา คดีย่อมถึงที่สุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 147 วรรคสอง จำเลยทั้งสองจึงไม่อาจยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าธรรมเนียมตามมาตรา 229 ได้อีก ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับอุทธรณ์และรับฎีกาของจำเลยทั้งสองมา และศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยเรื่องการขอขยายระยะเวลาให้ จึงเป็นการไม่ชอบ”

พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และยกฎีกาของจำเลยทั้งสอง

Share