แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อเท็จจริงได้ความว่าฝิ่นจำนวน 77,700 กรัม เจ้าพนักงานค้นได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ แม้โจทก์จะฟ้องหาว่าจำเลยมีฝิ่นอีกจำนวนหนึ่งไม่ใช่จำนวนที่ค้นได้นี้ และจำเลยรับสารภาพว่าฝิ่นที่ฟ้องหาว่าจำเลยมีเป็นของจำเลย และไม่ได้ให้การถึงฝิ่น 77,700 กรัม ที่ค้นได้ว่าเป็นของใครก็ฟังได้ว่าฝิ่นที่ค้นได้และไม่ได้ฟ้องว่าเป็นของจำเลย เป็นของมีไว้โดยผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่ฝิ่นของรัฐบาลและถูกจับในที่เกิดเหตุ เนื่องจากจำเลยทำผิดกฎหมายฐานมีฝิ่นไม่ใช่ของรัฐบาลไว้ในครอบครอง แต่เมื่อโจทก์ขอริบฝิ่นจำนวนนี้มาด้วย ศาลก็มีอำนาจริบได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2500)
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครอง 1 กระป๋องจำนวน 12,400 กรัม ราคา 49,600 บ. โดยไม่ได้รับอนุญาตจึงขอลงโทษและปรากฏตามฟ้องข้อ 2 ว่าได้ฝิ่นดิบซึ่งค้นได้ในบริเวณที่เกิดเหตุ 7 กระป๋อง จำนวนน้ำหนัก 77,700 กรัม และสิ่งของอื่นอีกหลายอย่างเป็นของกลาง(โดยไม่ปรากฏในฟ้องว่าของที่จับได้เหล่านี้เป็นของใคร) โจทก์จึงขอให้ริบของกลางที่จับได้ในฟ้องข้อ 2 นี้เสียด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้มีฝิ่นไว้ในความครอบครองจริงไม่ขอต่อสู้คดี
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 8, 53, 69 พระราชบัญญัติฝิ่น (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2494 มาตรา 6 ให้จำคุกจำเลย 1 ปี ลดรับสารภาพตาม มาตรา 59 กึ่งเหลือจำคุก 6 เดือน ริบฝิ่น 12400 กรัม ส่วนของกลางอื่น ๆ ไม่เกี่ยวข้องกับความผิดในคดีนี้จึงไม่ริบ
โจทก์ฎีกาขอให้ริบของกลางอื่น ๆ ตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องข้อ 2ด้วย
ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาในที่ประชุมใหญ่แล้วข้อเท็จจริงได้ความจากพยานโจทก์ว่า ก่อนที่จะเข้าทำการจับกุมเจ้าพนักงานได้ยิงต่อสู้กับจำเลยและพักพวกประมาณ 30 นาที จำเลยถูกจับเพราะถูกยิงฟุบอยู่หนีไม่ได้ ส่วนพรรคพวกจำเลยหนีไปหมดได้ฝิ่นที่จำเลย 1 กระป๋อง กับได้ฝิ่นอีก 7 กระป๋อง และของกลางอื่น ๆ ในบริเวณที่เกิดเหตุ แม้จำเลยจะรับแต่เพียงว่าฝิ่น 1 กระป๋องเป็นของจำเลย ก็ฟังได้ว่าฝิ่นของกลางอีก 77700 กรัมเป็นของมีไว้โดยผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่ฝิ่นของรัฐบาลและถูกจับในที่เกิดเหตุเนื่องจากจำเลยกระทำผิดกฎหมายฐานมีฝิ่นไม่ใช่ของรัฐบาลไว้ในครอบครอง ที่ศาลล่างทั้งสองไม่พิพากษาให้ริบฝิ่นของกลางทั้งหมด ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา จึงพิพากษาแก้ให้ริบฝิ่น 77700 กรัม ตาม พระราชบัญญัติฝิ่น พ.ศ. 2472 มาตรา 69 และ กฎหมายอาญา มาตรา 28 ด้วยส่วนของกลางนอกจากนี้ไม่ปรากฏตามฟ้องว่าเป็นของจำเลยและจำเลยมีไว้เพื่ออะไรจึงไม่ริบ นอกจากที่แก้นี้คงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์