คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2499

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาทและว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดบัดนี้ถึงวันกำหนดจำเลยไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์จริงแต่กู้และรับเพียง 10,000 บาทที่เขียนในสัญญาเป็น 15,000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้อีก 5,000 บาท สัญญากู้จึงเป็นโมฆะฟ้องร้องบังคับจำเลยไม่ได้
ตามฟ้องและคำให้การของจำเลยดังกล่าวฝ่ายจำเลยมีสิทธินำพยานเข้าสืบได้ว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วยเพราะมิใช่เป็นการสืบแก้สัญญาแต่เป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ศาลจึงไม่ควรด่วนงดสืบพยานทั้งสองฝ่ายแล้วพิพากษาแต่จะต้องให้สืบพยานกันต่อไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรคสอง

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ไป 15,000 บาท และสัญญาว่าจะใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามวันกำหนดแต่ถึงกำหนดจำเลยมิได้ชำระ จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยชำระต้นเงิน 15,000 บาทดอกเบี้ยแต่วันกู้ถึงวันฟ้อง กับดอกเบี้ยแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยให้การรับว่าได้กู้เงินโจทก์ไปจริงแต่กู้และรับเงินเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ที่เขียนในสัญญาเป็น 15,000 บาทก็โดยโจทก์เจตนาคิดเอาดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้อีก 5,000 บาทสัญญากู้จึงเป็นโมฆะจะฟ้องร้องบังคับหาได้ไม่

ได้ความตามฟ้องและคำให้การดังนี้ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยจะนำสืบไม่ได้ว่าโจทก์เจตนาคิดดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้อีก 5,000 บาท เพราะเป็นการสืบแก้สัญญา จึงงดสืบพยานทั้งสองฝ่าย

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงิน 15,000 บาท กับดอกเบี้ยแต่วันกู้จนถึงวันฟ้อง 1,500 บาท กับให้เสียดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีในต้นเงิน 15,000 บาท แต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จอีกด้วย

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยนำสืบได้ว่าสัญญานั้นไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรค 2หาใช่เป็นการสืบแก้ไขสัญญาไม่ จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

โจทก์ฎีกาว่าจำเลยจะนำสืบไม่ได้

ศาลฎีกาได้ประชุมปรึกษาคดีแล้วเห็นว่าการที่จำเลยจะขอสืบว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยเกินอัตราในกฎหมายบวกไว้ในต้นเงินกู้ด้วย 5,000 บาท นั้นเป็นการสืบเพื่อให้เห็นว่าหนี้ส่วนนั้นไม่สมบูรณ์บังคับกันไม่ได้ ฉะนั้นจำเลยจึงนำสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 วรรค 2 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามาถูกต้องแล้วจึงพิพากษายืน

Share