แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
มีเฮโรอีนอยู่แล้วจำหน่ายเฮโรอีนนั้นไปทั้งหมด มีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 มาตรา 20ทวิ ฉบับที่ 4 พ.ศ.2504 มาตรา 6 ไม่ผิด มาตรา 20ตรี อีกบทหนึ่ง
ย่อยาว
จำเลยมีและจำหน่ายเฮโรอีน จับได้พร้อมด้วยเฮโรอีนหนัก 686.20 กรัมศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ปล่อยจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465มาตรา 20 ทวิ, 20 ตรี ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2504 มาตรา 6, 7 ลงโทษตามมาตรา 20 ทวิ บทหนัก จำคุก 8 ปี จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “เชื่อได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกระทำผิดรายนี้ด้วย ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาปรับบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465มาตรา 20 ตรี ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2504 มาตรา 7 มาด้วยนั้นยังไม่ถูกต้อง เพราะจำเลยมีเฮโรอีนอยู่แล้วจำเลยจำหน่ายเฮโรอีนนั้นไปทั้งหมดเลย จึงมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนเท่านั้น การปรับบทลงโทษเป็นเหตุลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาถึงจำเลยที่ 2 ที่มิได้อุทธรณ์ฎีกาด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 213 ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ทวิแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504มาตรา 6 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”