คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2196/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ราษฎรร่วมกับเจ้าพนักงานยักยอกเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ราษฎรเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงานที่เป็นตัวการตายราษฎรก็ยังถูกฟ้องและลงโทษได้

ย่อยาว

จำเลยเป็นราษฎรร่วมกับ ร. พนักงานบัญชีของทางราชการ ร. ลงบัญชีจ่ายเงิน 4,200 บาท แต่จ่ายให้ผู้รับเงินรับไป 2,100 บาท โดยจำเลยลงชื่อในช่องผู้รับเงิน ซึ่งผู้รับเงินจริงมิได้ลงชื่อ จำเลยกับ ร. ยักยอกเงินที่ไม่ได้จ่าย ร. ตายจึงไม่ถูกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 3 ปี 9 เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 86 ให้จำเลยคืนเงิน 2,100 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษลดลง 1 ใน 4 เป็นจำคุก 2 ปี 6 เดือน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า ฟ้องโจทก์บรรยายว่านายเริงชัย ศิรเลิศมุกุล เป็นตัวการในการกระทำความผิด แต่นายเริงชัยมิได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยด้วย เพราะถึงแก่ความตายเสียก่อน ก็ย่อมไม่มีคำพิพากษาชี้ขาดว่านายเริงชัยเป็นผู้กระทำผิดตามฟ้อง เมื่อไม่มีคำพิพากษาดังกล่าวความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดก็มีขึ้นไม่ได้ ศาลจะลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นผู้สนับสนุนหาได้ไม่นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้นายเริงชัยจะมิได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยด้วยก็ตาม แต่เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าความผิดเกิดขึ้นโดยจำเลยที่ 1 กับนายเริงชัยร่วมมือกันกระทำ ถือว่าจำเลยที่ 1 กับนายเริงชัยเป็นตัวการ ทั้งข้อเท็จจริงฟังได้สมฟ้องของโจทก์ที่บรรยายว่าจำเลยที่ 1 และนายเริงชัยเป็นตัวการร่วมกระทำความผิดด้วยกัน แต่ศาลมิได้พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นตัวการในการกระทำผิด ก็เพราะจำเลยที่ 1 มิได้เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำการใด ๆ ตามมาตรา 147ที่กล่าวข้างต้น จึงพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ได้เพียงฐานเป็นผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 เท่านั้น การที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ดังกล่าว ไม่เกี่ยวกับข้อที่ว่านายเริงชัยมิได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยด้วยและหาได้เกี่ยวกับข้อที่ว่าศาลมิได้พิพากษาชี้ขาดว่านายเริงชัยเป็นผู้กระทำผิดตามฟ้อง”

พิพากษายืน

Share