คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้คดีนี้จะมีประเด็นเดียวกับคดีก่อน แต่เมื่อมีคำพิพากษาศาลให้อำนาจแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องที่พิพาทอีกได้แล้วฟ้องของโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
เมื่อจำเลยที่ 2 ตั้งประเด็นต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 และศาลฎีกาได้พิพากษาไว้ในคดีก่อนระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ว่าไม่ใช่ของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์จึงใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ที่พิพาทนางมูลยายโจทก์และนายเหล็งร่วมกันซื้อเฉพาะส่วนของนางมูลนางมูลให้นายเสงี่ยม ซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 และเป็นบิดาจำเลยที่ 2 ลงชื่อรับโอนทางทะเบียนแทน ในปีนั้นเองนางมูลได้ยกกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วนพร้อมกับเรือนอีก 1 หลังให้โจทก์แต่มิได้แก้ทะเบียนให้ถูกต้อง โจทก์ครอบครองตลอดมา ต่อมานางมูลและโจทก์ขอให้จำเลยโอนใส่ชื่อโจทก์ จำเลยขอผลัด โจทก์จึงฟ้องตามคดีแดงที่ 62/2495 ศาลฎีกาพิพากษาชี้ขาดว่าที่ดินแปลงนี้นางมูลเป็นผู้ซื้อและให้นายเสงี่ยมลงชื่อแทน โจทก์ได้รับยกให้จากนางมูล โจทก์ครอบครองตลอดมา จำเลยมิได้ครอบครอง แต่โจทก์ครอบครองมายังไม่ถึง 10 ปี จึงให้ยกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกที่พิพาทในทางที่ถูกต้องต่อไปหลังจากนั้นจำเลยบุกรุกเข้ามาทำนาในที่พิพาทโจทก์จึงฟ้องเป็นคดีนี้ ให้แสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง

จำเลยต่อสู้ว่า นายเสงี่ยมซื้อที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเองฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ สั่งงดสืบพยานและพิพากษาว่าที่พิพาทเฉพาะส่วนของนางมูลเป็นของโจทก์ ให้ถอนชื่อนายเสงี่ยมออกแล้วใส่ชื่อโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ห้ามจำเลยเกี่ยวข้อง ฯลฯและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมาย 2 ข้อ

ศาลฎีกาเห็นว่า (1) แม้คดีนี้จะมีประเด็นเดียวกับคดีก่อน แต่ศาลฎีกาก็ได้กล่าวไว้ในคำพิพากษาให้อำนาจแก่โจทก์ที่จะเรียกร้องที่พิพาทอีกได้ จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำ (2) จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของนายเสงี่ยมเช่นเดียวกับจำเลยที่ 1 เมื่อศาลฎีกาพิพากษาว่าไม่ใช่เป็นของนายเสงี่ยม นายเสงี่ยมไม่ได้เกี่ยวข้องครอบครองที่พิพาทแล้ว คำพิพากษานั้นใช้ยันจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลนอกคดีได้ พิพากษายืน

Share